คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 11: ความบริบูรณ์อันประมาณค่ามิได้ ของพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์


บทที่ 11

ความบริบูรณ์อันประมาณค่ามิได้ ของพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์

เราจะเตรียมตัวให้ดียิ่งขึ้นเพื่อรับพรพระวิหารและ ช่วยให้ผู้อื่นได้รับพรเหล่านี๋ไตัอย่างไร?

บทน่า

ในเดือนมีนาคม 1956 ประธานฮาโรลด์ บี. ลี เล่าเรื่องของพ่อคนหนึ่งที่การอุทิศ พระวิหารลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เมีย เกี่ยวกับลูกชายของเขาที่ได้รับมอบหมายให้ ขับเครื่องบินไปทำภารกิจเกี่ยงอันตรายระหว่างสงคราม

“พ่อพูดกับเขาว่า ‘ลูกพ่อ ลูกจะกลับฐานทัพโดยปลอดภัยได้อย่างไร …?’ ชายหนุ่ม ตอบว่า ‘ง่ายมีดเดียวครับพ่อ ก็แค่ขับเครื่องบินไปตามสัญญาณวิทยุ’ แต่พ่อถามต่อ ว่า ‘สมมุติว่าสัญญาณขาดหาย และอุปกรณ์บางอย่างของวิทยุที่ช่วยให้นักบินรู้เส้น ทางเกิดเลียขึ้นมาเล่า’ ‘อ๋อ’ เขาตอบ ‘ผมก็ใช้เข็มทิศซิครับ’ ‘อย่างนั้นหรือลูก แล้ว สมมุติว่าเข็มทิศถูกยิงเลียหายล่ะ’

“ชายหนุ่ม [ไตร่ตรอง] อย่างใช้ความคิดแล้วพูดขึ้นว่า ‘ผมจะทำอย่างนี้ครับพ่อ ผม จะค่อย ๆ ขับเครื่องบินขึ้นไปให้สูงเหนือหมอกควันและฝ่นละอองของแผ่นดินโลก จนถึงจุดที่ผมสามารถมองเห็นดวงดาวได้ และเมื่อผมบินสูงถึงระดับนั้น ผมก็จะให้ ดวงดาวชี้นำเส้นทางบิน ซึ่งจะไม่มีวันพลาดและทำให้ผมพบทางกลับบ้านได้เสมอ’ ”

ประธานลีกล่าวต่อไปว่า “บนโลกนี้ นอกที่ประทับอันคักดี้ลีทธของพระองค์ มี หลายลีงที่เงินซื้อได้ มีกี่งที่เราเรียกว่าเกียรติของมนุษย์ และกี่งที่เราพยายาม’ให้ได้มา และดูเหมือนจะคิดว่ากี่งนั้นสำคัญที่สุด แต่ [พระวิหาร] คือที่ที่เราจะปีนขึ้นไปให้อยู่ เหนือหมอกควันของกี่งทางโลกเหล่านี้ และเรียนรู้ที่จะอ่านเส้นทางซึ่งจะพาเรากลับ บ้านอย่างปลอดภัยโดยใช้ดาวมีรันดร์ฃองพระผู้เป็นเจ้า”1

ภาพ
Salt Lake Temple

คำสอนของฮาโรลด์ บี. ลี

เราจะได้รับพรอะไรบ้างในพระนิเวศของพระเจ้า?

ข้าพเจ้าคิดว่า เรามา [ที่พระวิหาร] เพื่อรับพรอันบริบูรณ์ของฐานะปุโรหิต…

เรามาที่นี่ มายังพระนิเวศอันศักดี้สิทธึ้นี้ เพื่อเรียนรู้ เพื่อรู้จักพระผู้เป็นเจ้าดังที่ พระองค์ทรงเป็นจริง ๆ และรู้ด้วยตัวเองว่าเราแต่ละคนจะได้รับความสูงส่งในที่ ประทับของพระองคได้อย่างไร …

ที่นี่ เราเริ่มวางคิลารากฐานของบ้านนิรันดรบนสวรรค์ เพราะในศาสนาจักรนี้มี พลังอำนาจที่จะผูกบนโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์2

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เราต้องทำให้คนทั้งหมดของเรา ทั้งแก่และหนุ่ม เข้าใจข้อ เท็จจริงที่ว่า ในพระวิหารอันดักดสิทธของเรา เอ็นดาวเม้นทัพระวิหารเป็นเครื่อง นำทางอันแน่นอนสู่ความสุขที่นี่ และชีวิตนิรันดรในโลกที่จะมาถึง3

เมื่อท่านเข้าไปในพระวิหารอันดักดสิทธี้ ท่านกำลังใข้เสันทางนั้นผูกสัมพันธ์อับ สิทธิซนในอาณาจักรนิรันดร์ฃองพระผู้เป็นเจ้า โดยไม่มีกาลเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง ใน พระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะไม่ได้รับประสาทพรด้วยมรดกลํ้าค่าของทรัพย์ สมบัติทางโลก แต่ด้วยความมั่งคั่งแห่งความบริบูรณ์นิรันดรอันประมาณค่ามีได้

พระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงปริซาญาณทรงกำหนดพิธีการพระวิหารและทรงเป็ด เผยต่อเราในวันเวลาสุดท้ายนี้ เพื่อเป็นเครื่องนำทางและเครื่องป้องกันตลอดชีวิต ของเรา เพื่อท่านและข้าพเจ้าจะได้รับความสูงส่งในอาณาจักรชั้นสูง ที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า และพระคริสต์ประทับอยู่

ขอให้ท่านเพียรพยายามและได้รับการนำทาง เพื่อเตรียมตัวรับความบริบูรณ์อัน ประมาณค่ามิได้เหล่านี้ในพระนิเวศของพระเจ้า4

เรามีการเป็ดเผยสองแบบ ได้แก่ การเป็ดเผยที่พอจะกล่าวได้ว่าเป็นการเป็ดเผย ที่เป็ดอยู่อย่างเช่นการเป็ดเผยทีเชียนไวัไนคำสอนและพันธสัญญา และที่อื่น ๆ ซึ่งให้ แก่โลกได้ และการเป็ดเผยอีกอย่างหนึ่งเรียกว่าการเป็ดเผยที่ปีดอยู่ โดยจะประกาศ และประทานให้เฉพาะในสถานที่ดักดี้สิทธี้เท่านั้น ซึ่งเตรียมไว้ส่าหรับการเป็ดเผยพิธี การชั้นสูงสุดซึ่งเป็นของฐานะปุโรหิตแห่งแอรันและเม็ลคิเซเด็ค และพิธีการเหล่านั้น อยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า5

ราวด้นข 1841 พระเจ้าทรงเป็ดเผยต่อโจเซฟ สมีธ ว่า “จะไม่พบที่บนแผ่นดินโลก ที่พระองค์จะเสด็จมาและพื่นฟูอีกสิงซึ่งสูญไปแล้วส่าหรับเจ้า หรือซึ่งพระองค์ทรง เอาไว้แล้ว แม้ความสมบูรณ์ของฐานะปุโรหิต …

“เพราะเรายินยอมเปีดเผยต่อศาสนาจักรของเราถึงสิงซึ่งถูกซ่อนเก็บไว้ตั้งแต่ ก่อนการวางรากฐานของโลก สิงที่เกี่ยวกับสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา” (ค.พ. 124:28, 41)

การเปีดเผยเหล่านี้ ซึ่งสงวนไว้และสอนให้เฉพาะสมาชิกที่ซึ่อสัตย์ของศาสนาจักร ในพระวิหารอันศักดสิทธ์เท่านั้น ประกอบเป็นสิงที่เรียกว่า “ความสับลึกของความ เป็นพระผู้เป็นเจ้า” พระเจ้าตรัสว่าพระองค์ประทาน “กุญแจแห่งความสับลึกและการ เป็ดเผยซึ่งถูกผนึกไว้” แก่โจเซฟ (ค.พ. 28:7) เพื่อเป็นรางวัลสำหรับผู้ซึ่อสัตย์ พระ เจ้าทรงสัญญาว่า “และกับเขาเราจะเขตเผยความลับลึกนั้งหมด แท้จริงแล้ว ความลับ ลึกที่ซ่อนอยู่นั้งหมดของอาณาจักรของเราตั้งแต่สมัยโบราณ …” (ค.พ. 76:7) …

ในข้อเขียนของศาสดาโจเซฟ สมิธ มีคำอธิบายเกี่ยวกับสิงที่เรียกว่าความลับลึก ซึ่งครอบคลุมถึงสิงที่ศาสดาบอกว่าเป็นเอ็นดาวเม้นท์ศักดี้สิทธ์ ท่านกล่าวไว้มีใจความ ตอนหนึ่งว่า

“ข้าพเจ้าขลุกอยู่ที่ขั้นบนของร้ไน ในห้องท่างานส่วนตัวของข้าพเจ้า … ในสภากับ [จากนั้นท่านก็เอ่ยนามของผู้นำหลายคนในยุคแรก] โดยแนะนำสั่งสอนเขาเรื่องหลัก ธรรมและระเบียบของฐานะปุโรหิต ตามด้วยการล้าง การชโลม เอ็นดาวเม้นฑ์ และ การถ่ายทอดกุญแจที่เกี่ยวข้องกับฐานะปุโรหิตแห่งแอรัน และอื่น ๆ ไปจนถึงระเบียบ ขั้นสูงสุดของฐานะปุโรหิตแห่งเม็ลคิเซเด็ด โดยอธิบายให้ทราบถึงระเบียบที่เกี่ยวข้อง กับบิดรแห่งวันเวลา รวมทั้งแผนและหลักธรรมทั้งหมดนั้นที่ทำให้ทุกคนสามารถได้ รับความบริบูรณ์ของพรเหล่านั้นที่เตรียมไว้สำหรับศาสนาจักรของพระบุตรหัวปี จน มาถึงและได้อยู่ในที่ประทับของเอโลฮิมในโลกนึรันดร์” (Teachings of the Prophet Joseph Smith, p. 237)

ตอนที่ประธานบรีคัม ยัง วางสิลาฤกษ์พระวิหารซอลฑ์เลค ท่านไต่ให้ความกระ จ่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายของเอ็นดาวเมันท”’และจุดประสงค์ของการสร้างพระ วิหารไว้ตังนี้

“… เอ็นดาวเมันท”’ของท่านจำเป็นต่อการรับพิธีการทั้งหมดนั้นในพระนิเวศของ พระเจ้า เพื่อท่านจะสามารถกลับไปยังที่ประทับของพระบิดาได้หลังจากเสิยชีวิตไป แล้ว โดยผ่านเหล่าเทพที่ยืนเป็นองครักษ์ … และรับความสูงส่งนึรันดร์ของท่านทั้ง ๆ ที่มีแผ่นดินโลกและนรก” [Discourses of Brigham Young, sel. John A. Widtsoe (1954), 416]6

เราจะทำหน้าที่เป็น “ผู้ซ่วยให้รอดบนเขาไซอัน” สำหรับคนที่เสียชีวิตไปแล้วได้อย่างไร?

หากการยอมรับพระกิตติคุณจำเป็นยิ่งต่อความผาสุกของจิตวิญญาณนิรันดรของ มนุษย์ ท่านอาจจะถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคนนับล้านที่เสียชีวิตโดยปราศจากความ รู้ในพระกิตติคุณหรือแผนของพระเจ้า อันจะทำให้การซดใช้ของพระองค์บรรลุผล โดยครบถ้วน หากงานสอนศาสนาถูกจำกัดอยู่แต่ชีวิตมตะ จิตวิญญาณเป็นอันมาก คงถูกตัดสินลงโทษโดยไม่มีการพิจารณา ทุกคน ไม่ว่าดีหรือเลว จะที่นคืนชีวิตเนื่อง ด้วยการชดใช้ ทั้งนี้ “เพราะว่าคนทั้งปวงต้องตายเกี่ยวเนื่องกับอาตัมฉันใด คนทั้ง ปวงจะกลับไต่ชีวิตเกี่ยวเนื่องกับพระคริสต์ฉันทั้น” (1 โครืนย์ 15:22) แต่เฉพาะ คนที่กลับใจ และรับบัพติศมาเพื่อการปลดบาปเท่านั้นที่มีสิทขึ้เต็มที่ต่อโลหิตแห่ง การไถ่โดยทางการชดใช้ของพระองค์ … บัพติศมาโดยการจุ่มลงไปในนํ้าทั้งตัวเพื่อ การปลดบาป ทางเดียวเท่านั้นที่มนุษย์จะยอมรับพระกิตติคุณ เป็นพิธีการทางโลก และทั้งนี้ในแผนแห่งความรอด ด้วยความเห็นอกเห็นใจที่มีให้กับลูกทุกคนของพระ องค์เตยเท่าเทียมกัน พระบิดาของเราทรงเตรียมทางให้สมาซิกทุกคนของศาสนาจักร และอาณาจักรนี้บนแผ่นดินโลกเป็น “ผู้ช่วยให้รอด บนเขาไซอัน” โดยการทำงานแทน ผู้ที่อยู่ในโลกแห่งวิญญาณหรือ “คุกแห่งวิญญาณ” ซึ่งเขาไม่สามารถทำ ด้วยตัวเองได้

โดยความเป็นจริงแล้ว งานแทนคนตายที่สมาชีกฃองศาสนาจักรกระทำในพระ วิหารอันศักดสิทขึ้ท่าให้เขาผู้ที่ท่างานนี้เป็น “ผู้ช่วยให้รอด” สำหรับคนที่เสียชีวิต โดยปราศจากความรู้ในพระกิตติคุณ โดยการนี้ คนเหล่านั้นจึงมีสิทธึ๋ได้รับของขวัญ โดยครบถ้วนตามทีพระผู้ช่วยให้รอดทรงสัญญาไว้กับมนุษยชาติทั้งปวงทางการซดใช้ ของพระองค์ เมื่อกล่าวถึงพิธีการที่ทำให้กับผู้อยู่ในโลกแห่งวิญญาณ ตังที่สิทธิซนใน สมัยของอัครสาวกเปาโลกระท่า และซึ่งเวลานี้เราสามารถกระท่าแทนคนตายได้ อัครสาวกเปาโลไต่ให้ข้อสรุปเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันเรื่องการที่นคืนชีวิตไว้ตังนี้ “มี ฉะนั้นคนเหล่านั้นที่รับบัพติศมาสำหรับคนตายเขาทำอะไรกันถ้าพระเจ้าไม่ทรงซุบคน ตายให้เป็นขึ้นมา เหตุไฉนจึงมีคนรับบัพติศมาสำหรับคนตายเล่า” (1 โครืนธ์ 15:29) พระวิหารในสมัยนี้สร้างขึ้นเพื่อให้ท่างานที่จำเป็นยิ่งต่องานแห่งความรอดได้อีกครํ่ง7

[พระเจ้า] ตรัสว่าพลังแห่งความตาย (ประตูนรก) จะไม่มีชัยต่อคริสตจักร (ศาสนาจักรของพระคริสต์) (มัทธิว 16:18) ประตูนรกจะมีชัยต่องานของพระเจ้า แน่หากไม่มีพิธีการอันเกี่ยวเนื่องกับความรอดของคนที่เสียชีวิตแล้ว ในช่วงเวลานั้น เมื่อฐานะปุโรหิตที่ประกอบพิธีการแห่งความรอดของพระกิตติคุณไม่ได้อยู่บนแผ่นคืน โลก มีหลายล้านคนที่มีชีวิตอยู่ และหลายคนในบรรดาพวกเขาเป็นจิตวิญญาณที่ ซื่อสัตย์ หากไม่มีทางที่จะประกอบพิธีการแห่งความรอดของพระกิตติคุณให้กับคน ที่เสียชีวิตโดยปราศจากความรู่ในพระกิตติคุณ ประตูนรกจะต้องมีชัยต่อแผนแห่ง ความรอดของพระบิดาแน่นอน8

[ในการต้นคว้าลำดับการสืบเชื้อสายของเรา] พระเจ้าจะไม่เปิดประตูจนกว่าเราจะ ทำจนสุดความสามารถ เราต้องไปให้ถึงกำแพงที่ไม่มีทางออก และจากนั้นเราต้องมี ศรัทธามากพอที่จะทูลขอพระเจ้าให้ทำทางออกเพื่อเราจะสามารถเดินก้าวต่อไปไต้ และท่านจะไต้รับข้อมูลจากแหล่งที่เปิดเผยความจริงว่าสวรรค์และแผ่นดินโลกไม่ ไกลจากกันเลย

หลายคนในพวกท่านมีชีวิตอยู่จนถึงเวลาที่คนรักจากไป บางคเงท่านแน่ใจว่าคน เหล่านั้นอยู่ใกล้ท่านมาก และบางคราวเขาก็น่าข้อมูลที่ท่านไม่สามารถมีไต้โดยทาง อื่นมาให้9

ข้าพเจ้ามีความเชื่ออย่างมั่นคงอันเกิดจากประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ข้าพเจ้าจะ แสดงประจักษ์พยานว่า มีพลังอำนาจเหนือชีวิตนี้ที่กำลังท่างานกับเรา…

ข้าพเจ้ามีศรัทธาที่เรียบง่ายว่า เมื่อท่านท่าจนสุดความสามารถแล้ว โดยต้นคว้า ไปจนถึงโอกาสสุดท้าย พระเจ้าจะทรงช่วยท่านเปิดประตูเพื่อให้ท่าล่าดับการสืบเชื้อ สายไต้มากชื้น และสวรรค์จะร่วมมือ ข้าพเจ้าแน่ใจเช่นนั้น10

ล้าเราร่วมใจกันในงานพระวิหารและในงานต้นคว้าล่าดับการสืบเชื้อสาย เราจะไม่ พอใจแต่พระวิหารในปึจจุบันเท่านั้น แต่เราจะมีงานรองรับพระวิหารที่ตามมา เพื่อ เปิดประตูแห่งโอกาสสำหรับผู้อยู่ในโลกแห่งวิญญาณซึ่งเป็นญาติของธา และด้วย เหตุนี้ เราจึงเป็นผู้ช่วยให้รอดบนเขาไซอัน หากเราไม่ร่วมใจกัน เราจะท่าให้ครอบดรัวของเราดำรงอยู่ในนิรันดรไม่ไต้11

เราจะเตรียมตัวให้ดียิ่งขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมในพรพระวิหารได้อย่างไร?

เมื่อเราซึ่งเป็นผู้ช่วยให้รอดบนเขาไซอันกำลังท่างานแทนคนตาย พระเจ้าทรงประ สงค์ไห้ผู้ทีปราศจากตำหนิเป็นผู้ท่างานนี้เท่าทีจะเป็นไปไต้ พระองค์ทรงประสงค์ สัตวบูชาที่ปราศจากตำหนิฉันใด พระองค์ก็ทรงประสงค์ไห้เรามาอย่างบริสุทชื้ สะอาด และมีค่าควรเพื่อทำงานแทนคนตายในฐานะผู้ช่วยให้รอดบนเขาไซอันฉันนั้น

และด้วยเหตุนี้เราจึงแนะน่าอธิการและประธานสเตคซองเราให้เข้มงวดกวดชัน ในการเตรียมผู้คนของเขาให้พร้อมที่จะรับใบรับรองและไม่ปล่อยให้คนที่ไม่ไต้กลํบ ใจจากบาป ผู้ที่ท่าความผิด มาที่นี่ทั้งที่ยังไม่ไต้กลับใจ และการทำเช่นนี้จะท่าให้พระ นิเวศอันศักดี้สิทธึ้แปดเฟ้อน ข้าพเจ้าคิดว่าคงไม่มีนรกบนแผ่นดินโลกที่เลวร้ายยิ่ง กว่านี้อีกแล้วสำหรับคนที่เข้ามาในที่ซึ่งใกล้เคียงกับที่ประทับของพระบิดาโดยที่ยังรู่สืก ผิดและไฝสะอาด นี่จะเป็นประสบการณ์ที่สร้างความหายนะและส่งผลเสียอย่างยิง12

บางที สถานที่คักตั้สิทธี้ที่สุดและใกล้เคียงสวรรค์บนแผ่นดินโลกมากที่สุดคือ พระวิหารของเรา ถึงขั้นที่เราจะไปที่นั่นโดยไม่ด่างพร้อย และถึงขั้นที่อธิการและประ ธานสเตคของเราจะสำรวจทุกคนที่ฃอใบรับรองอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้แน่ใจว่าเขากำลัง ดำเนินชีวิตตามมาตรฐานเท่าที่เป็นไปได้ [มิฉะนั้นเขาจะไม่ไป] ที่นั่นด้วยความไม่ สะอาดอันจะท่าให่วิญญาณที่เราประสงค์จะให้อยู่ที่นั่นต้องเถี่อมความคักตั้สิทธึ้

จงจำไว้ตั้งแต่บัดนี้ จำไว้ว่า ความรับผิดชอบอันคักดี้สิทธึ้ของเราและความหวัง ของเรา คือ ตัวเราจะต้องแน่ใจว่าทุกครั้งที่เราไป เราไปด้วยมือที่สะอาดและใจที่ บริสุทธึ้ และจงสอนสิงนี้แกํผู้อื่น [ดู สดุดี 24:3-4]13

เรามืคนจำนวนหนึ่งที่ด้องการไปพระวิหารทันทีหลังจากรับบัพดิศมา มีกฎที่วาง ไว้นานมาแล้ว…ซึ่งกล่าวว่า ควรจะ อย่างน้อย หนึ่งปี…เหตุผลที่เราบอกอย่างน้อย หนึ่งปีก็เพราะหวังว่าอธิการและประทานสเตคจะล้มภาษณ์อย่างละเอยดจนแน่ใจว่า คนเหล่านั่นอยู่ในศาสนาจักรนานพอที่จะตั้งมั่นอยู่ในหลักธรรมพื้นฐานของพระกิต-ติคุณและรู้คำสอนเบื้องด้นของศาสนาจักรก่อนที่เราจะคาดหวังให้เขาเข้าใจพิธีการที่ สูงกว่า ซึ่งคือ พิธีการพระวิหาร ฉะนั่น คำถามสำหรับผู้ที่จะไปพระวิหารจึงไม่ใช่สำ หรับความมืด่าควรเท่านั่นแต่สำหรับความพร้อมที่จะได้รับพิธีการพระวิหารด้วย14

การรับเอ็นดาวเน้นท์เรียกร้องให้ยอมรับข้อผูกมัดตามพันธสัญญาซึ่งความจริงแล้ว เป็นการแสดงออกในรูปธรรม หรือการเผยให้เห็นพันธสัญญาที่แด่ละบุคคลควรยอม รับเมื่อครั้งบัพดิศมา ดังที่ศาสดาแอลมาอธิบายโดยมืใจความดังนี้ “ท่านปรารถนาจะ เข้ามาสู่คอกของพระผู้เป็นเจ้าและมืซึ่อว่าผู้คนของพระองค์ และเต็มใจจะแบกภาระ ของกันและกันเพื่อมันจะได้เบา แท้จริงแล้ว และเต็มใจที่จะเป็นทุกข์กับคนที่เป็นทุกข์ แท้จริงแล้ว และปลอบโยนคนที่ด้องการความปลอบโยน และจะยืนเป็นพยานของ พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา และในทุกสิง และในทุกแห่งที่ท่านจะอยู่ แม้จนถึงความตาย” (โมไซยา 18:8-9) คนใดก็ตามที่พร้อมจะรับข้อผูกมัดดังที่แอลมาประกาศ และ “ถ่อมตัวต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า…และออกมาด้วยใจที่ชอกขั้าและวิญญาณที่ สำนึกผิด … และเต็มใจรับพระนามของพระเยซูคริสต์ โดยตั้งใจรับใช้พระองค์จนถึง ที่สุด” (ค.พ. 20:37) ไม่ต้องลังเลที่จะไปพระวิหารอันคักดสิทธี้และรับคำสัญญาถึง พรใหญ่ยิ่งอันเกี่ยวเนื่องกับพันธสัญญาที่รับไว้ โดยยืดการทำตามพันธสัญญาเหล่า นั่นเป็นหลัก15

เราต้องเตรียม [มาที่พระวิหาร] อย่างไร? ที่ประตูทางเข้าพระวิหารคาร์ดสตัน อัล เบอร์ตา ช่างแกะสลักคนหนึ่งจาริกคำสารภาพและข้อคิดของเอ็ลเดอร์ออร์สัน เอฟ. วิทนิย์ผู้ล’วงสับไปแล้ว ข้อความดังกล่าวเป็นสิงที่เราทุกคนพึงจดจำ เขาจาริกว่า

“ใจต้องบริสุทธี้เมื่อเข้าในกำแพงพระวิหาร

อันเป็นสถานจัดเลี้ยงที่โลกไม่เคยพบพาน

รับประทานไต้เต็มที่ เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงให้เปล่า

และลิ้มรสความปีติยินดีอันคักดสิทธี้ที่สวรรค์บอกกล่าว

มาเรียนรู้เรื่องพระองค์ผู้ทรงมีชัยเหนือหลุมศพ

และทรงมอบกุญแจแห่งอาณาจักรแก่มนุษยํในพิภพ

มาร่วมผูกอดีตและปัจจุบันโดยพลังอำนาจ

เพื่อศวามดีพร้อมของคนเป็นและคนตาย”

ประธานโจเซฟ เอฟ. สมีธ ไขความลับของความดีพร้อมนั้นเมื่อท่านกล่าวว่า “ไม่ ง่ายเลยที่มนุษย์จะละทิ้งความหยิ่งยโส เอาชนะความอคติ และยอมจำนนด้วยสุดจิต สุดใจต่อพระประสงค์ของพระเจ้าซึ่งสูงกว่าของเขาเสมอ … เมื่อชายและหญิงรู้ตัวว่า กำลังถลำลงไปในนั้าลึกที่จุดยืนของเขาไม่มั่นคง เขาควรถอยกลับ เพราะแน่ใจไต้เลย ว่าเส้นทางที่เขาดำเนินอยู่นั้นจะนำเขาออกห่างจากทิศทางที่เขาควรไปมากฃึ้นธื่อยๆ ซึ่งไม่ง่ายนักที่จะกลับสู่เส้นทางเดิม ศาสนาแห่งหัวใจ ส้มพันธภาพอันมั่นคงเรียบง่าย ที่เราควรมีกับพระผู้เป็นเจ้า เป็นเครื่องป้องกันสูงสุดของสิทธิซนยุคสุดห้าย” (Gospel Doctrines, p. 9) …

ด้วยการพิจารณาใคร่ครวญในเรื่องนั้น … ข้าพเจ้าอยากจะแสดงประจักษ์พยานต่อ ท่านโดยผ่านประสบการณ์ที่ข้าพเจ้ามี ลี้อาทิตย์ก่อนในช่วงเวลาเข้!ตรู่ข้าพเจ้าฝืนไป ในฝืนอันน่าชื่นซมยินดีนั้น ข้าพเจ้าอยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังร้บฟ้งคำแนะน่า สั่งสอนจากประธานศาสนาจักร ทั้งที่มีคนอื่นอยู่ที่นั้นด้วย แต่ดูเหมือนว่าทุกเรื่องที่ ท่านกำลังพูดเจาะจงมาที่ข้าพเจ้า … วันนี้ ความฝืนนั้นกลับมาหาข้าพเจ้า—กลับมาหา ข้าพเจ้าด้วยความชัดเจนยิ่ง เพราะนี่คือข่าวสารในความฝืน “หากท่านต้องการเรียน รู้ที่’จะรักพระผู้เป็นเจ้า ท่านต้องเรียนรู้ที่จะรักลูกของพระองค์ และรักที่จะรับใช้ลูก ของพระองค์ ไม่มีบุคคลใดรักพระผู้เป็นเจ้าเว้นเสิยแต่ว่าเขาจะรักการรับใช้และเว้น เสิยแต่ว่าเขาจะรักลูกของพระบิดาบนสวรรค์ของเรา”

และแล้วดูเหมือนว่าหลังจากประธานสอนบทเรียนตังกล่าว ซึ่งฝืงจิตฝืงใจข้าพเจ้า เป็นอย่างมาก ท่านกล่าวว่า “พี่น้องทุกท่าน เรามาคุกเช่าสวดอ้อนวอนกันเถิด” ข้าพ-เจ้าตื่นนอนหลังจากท่านสวดอ้อนวอน ด้วยความรู่ลึกดีที่สุดเท่าที่คืดว่าตนเองเคยรู้ ลึกมาก่อน โดยสงสัยว่าข้าพเจ้าจะยังคงดำเนินต่อไปจนสามารถบรรลุถงมาตรฐาน อันสูงส่งแห่งความรักที่มีต่อการรับใช้และความรักที่มีต่อลูกของพระเจ้าซึ่งฝืงลึกอยู่ ในจิตใจข้าพเจ้าในความฝืนนั้นไต่ไหม16

ขอบพระทัยพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการเป็ดเผยโดยอำนาจของพระวิญญาณบรีสุทธี้ ซึ่งเป็นพยานต่อจิตวิญญาณข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้ารู้ด้วยสุดจิตวิญญาณว่า [พระเจ้า] ทรง พระชนม์ พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลก ข้าพเจ้าทราบว่า [พระวิหาร] เป็นสถานที่คักดี้สิทธี้และได้รับการชำระให้บรีสุทธี้แล้ว ที่ซึ่งพระองค์สามารถเอน พระวรกายพักผ่อนได้เนื่องด้วยความบรีสุทธี้ในนั้น ขอให้ท่านมาที่นื่ด้วยใจที่บรีสุทธี้ ด้วยตา ความคิด และใจที่เห็นแก่พระผู้เป็นเจ้าแต่อย่างเดียว เพื่อท่านจะรู้!?กถึงการ ประทับอยู่ของพระองค์17

ข้อแนะนำสำหรับการสีกษาและการสนทนา

  • พระวิหารเป็น “เครื่องนำทางและเครื่องป้องกัน” สำหรับท่านในทางใด?

  • ท่านจะเปรียบทรัพย์สมบัติทางโลกกับความมั่งคั่งแห่งความบริบูรณ์นิรันดร์ที่ได้ รับในพระวิหารอย่างไร?

  • ทำไมเราจึงต้องเข้าร่วมการนมัสการในพระวิหารให้บ่อยที่สุดเท่าที่เราจะทำได้?

  • พรใดมาส่ท่านอันเนื่องจากการทำงานพระวิหารและประวัติครอบครีว?

  • ทำไมเราต้องมาที่พระนิเวศของพระเจ้าด้วยมือที่สะอาดและใจที่บรีสุทธี้? นอก จากความมืค่าควรแล้ว เราจะเตรียมเข้าพระวิหารในด้านใดอีก?

  • ทำไมการเรียนรู้ที่จะรักและรับใข้ผู้อื่นจึงเป็นการเตรียมที่สำคัญสำหรับการมีส่วน ในพรพระวิหาร?

อ้างอิง

  1. The Teachings of Harold B. Lee, ed. Clyde J. Williams (1996), 573.

  2. พิธีอุทิศพระวิหารลอสแองเจลิส นครฟอวัณอ เดือนมีนาคม 1956 เอกสารสำคัญ ของแผนกประวัติศาสตร์ ศาสนาจักรของ พระเยซูคริสต์แห่งสิทธิซนยุคสุดท้าย หน้า 159-161

  3. The Teachings of Harold B. Lee, 578.

  4. The Teachings of Harold B. Lee, 582.

  5. The Teachings of Harold B. Lee, 577-78.

  6. Ye Are the Light of the World (1974), 210-11.

  7. Decisions for Successful Living (1973), 118-19; paragraphing added.

  8. The Teachings of Harold B. Lee, 570.

  9. The Teachings of Harold B. Lee, 584.

  10. The Teachings of Harold B. Lee, 585.

  11. The Teachings of Harold B. Lee, 584.

  12. The Teachings of Harold B. Lee, 581.

  13. The Teachings of Harold B. Lee, 581.

  14. The Teachings of Harold B. Lee, 578-79.

  15. The Teachings of Harold B. Lee, 574.

  16. Los Angeles California Temple dedicatory service, 161-63.

  17. The Teachings of Harold B. Lee, 580.