บทนำ

เพื่อการศึกษาส่วนตัวหรือเป็นครอบครัว หนังสือเล่มนี้มุ่งหวังที่จะยกระดับความ เข้าใจของสมาซิกแต่ละคนในด้านหลักธรรมพระกิตติคุณที่ประธานฮาโรลคั บี. ลี สอนไว้อย่างมีประสืทธิภาพ โดยการอ่านร่วมกับการสวดอ้อนวอน และคืกษาอย่าง ไตร่ตรอง สมาซิกทุกคนจะได้รับพยานส่วนคัวถึงความจริงเหล่านี้ หนังสือเล่มนี้จะ เพิ่มเข้าไปในท้องสมุดพระกิตติคุณของสมาซิกแต่ละท่าน ทั้งสามารถเป็นแหล่งช่วย สำคัญสำหรับการสอนครอบครัวและการคืกษาภายในบ้านด้วย

เพื่อการสนทนาในการประชุมวันอาทิตย์ หนังสือเล่มนี้เป็นตำราสำหรับการประชุม โควรัมฐานะปุโรหิตแห่งเม็ลคิเซเด็ดและสมาคมสงเคราะห์วันอาทิตย์ เอ็ลเดอร่ดัสติน เอซ. โอ้คสํ สอนว่า หนังสือในชุด คำสอนซองประธานคาสนาจักร “ประกอบด้วย คำสอนและหลักธรรม หนังสือเหล่านี้มีคำและสอดคล้องกับความต้องการในสมัย ของเรา เป็นสุดยอดสำหรับการสอนและการสนทนา” ครูควรเน้นเนื้อหาในตำราและ ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องคังที่เอ็ลเดอร์โอ๊คส์อธิบายว่า “เราไม่ได้เรียกครูสอนพระกิต-ติคุณมาเพื่อเลือกหัวข้อบทเรียน แค่เรียกมาเพื่อสอนและสนทนาสิงที่กำหนดไว้”⁷

ครูควรดึงจากคำถามท้ายบทเพื่อกระตุ้นการสนทนาในชั้นเรียน การทบทวน คำถามก่อนคืกษาล้อยคำของประธานลีจะช่วยให้เข้าใจคำสอนของท่านมากขึ้น

การประชุมวันอาทิตย์ควรเน้นที่หลักธรรมพระกิตติคุณ ตัวอย่างส่วนคัวที่สอน หลักธรรมเหล่านี้ และประจักษ์พยานถึงความจริง เมื่อครูแสวงหาพระวิญญาณด้วย ความถ่อมใจ ขณะเตรียมและแนะน่าบทเรียน ทุกคนที่มีสํวนร่วมจะรู้ความจริงมากขึ้น ผู้น่าและครู ควรสนับสมุนสมาซิกในชั้นเรียนให้อ่านบทเรียนก่อนมาสนทนาในการ ประชุมวันอาทิตย์ ควรเตือนสมาซิกในชั้นเรียนให้น่าหนังสือติดคัวมาร่วมการประชุม ด้วย และควรให้เกียรติการเตรียมคัวของสมาซิกในชั้นเรียนโดยสอนจากถ้อยคำของ ประธานฮาโรลด์ บี. ลี เมื่อสมาซิกในชั้นเรียนอ่านมาล่วงหน้า เขาก็พร้อมจะสอน และสร้างสรรค์กัน

สมาชิกไม่จำเป็นต้องหาซื้อบทวิจารณ์หรือหนังสืออ้างอิงเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุน เนื้อหาในบทเรียน สมาชิกไต้รับการสนับสนุนให้เป็ดดูฃ้อพระคัมภีร์ที่แนะ นำไว้เพื่อ ดีกษาคำสอนตังกล่าวให้ละเอียดลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เนื่องจากตำราเล่มนื้จัดทำขึ้นเพื่อการสืกษาส่วนตัวและเป็นหนังสืออ้างอิงพระกิต-ติคุณ จึงมีหลายบทที่ยาวเกินกว่าจะสอนไต้หมดในการประชุมวันอาทิตย์ ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านต้องดีกษาที่บ้านเพื่อใหํไต้รับคำสอนของประธานลีอย่างครบ ถ้วน

ศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าท่านนื้ร้เส้นทางกลับบ้านไปหาพระบิดาบนสวรรค์ของเรา ท่านไดํให้คำแนะนำแก่ทุกคนที่จะฟังว่า “หากท่านจะฟังและนำสิงที่ไต้ยินไปปฏิบัติ ท่านจะไต้รับการนำไปสู่สภาพอันรุ่งโรจน์นั้น ซึ่งไมเพียงเรียกว่าเป็นความสุขแต่เรียก ว่าเป็นความปีติยินดี ความปีติยินดีหมายถึงเวลาที่ท่านตำเนินชีวิตจนท่านพร้อมจะ เข้าสู่ที่ประทับของพระเจ้า”⁸