คลังค้นคว้า
บทที่ 97: กิจการของอัครทูต 23–26


บทที่ 97

กิจการของอัครทูต 23–26

คำนำ

ผู้นำชาวยิวสอบสวนเปาโล และชาวยิวกลุ่มหนึ่งวางแผนสังหารเขา เปาโลถูกนำไปที่เมืองซีซารียา ที่นั่นท่านปกป้องตนเองจากข้อกล่าวหาผิดๆ ต่อหน้าผู้นำชาวโรมันหลายคน ท่านเล่าเรื่องการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของท่านอีกและเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

กิจการของอัครทูต 23–25

เปาโลถูกข่มเหง ถูกพิจารณาคดี และจำคุก

ก่อนชั้นเรียนให้เขียนสิ่งต่อไปนี้บนกระดาษแผ่นหนึ่ง พระบัญญัติและพรของพระผู้เป็นเจ้า ใช้เทปกาวหรือเชือกเพื่อกำหนดขอบเขตบริเวณหนึ่งในชั้นเรียน และวางกระดาษแผ่นนั้นลงบนพื้นภายในบริเวณที่กำหนด เมื่อเริ่มชั้นเรียน เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งให้ยืนในบริเวณนั้นซึ่งหมายถึงพระบัญญัติและพรของพระผู้เป็นเจ้า

  • ขณะที่เราเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นโดยทำตามพระบัญญัติและคำสอนของพระองค์ มีพรอะไรบ้างที่เราได้รับ

เชื้อเชิญให้นักเรียนเดินออกนอกบริเวณที่หมายถึงพระบัญญัติและพรของพระผู้เป็นเจ้า

  • มีอิทธิพลอะไรบ้างของโลกที่อาจล่อลวงบางคนให้ปฏิเสธและหยุดดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติและคำสอนของพระผู้เป็นเจ้า

  • จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้คนออกห่างจากพระผู้เป็นเจ้า

ขอบคุณนักเรียนที่มีส่วนร่วม และเชิญเขากลับไปนั่งที่ ขอให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขากำลังหันไปทิศทางใดและพวกเขารู้สึกว่าอยู่ใกล้หรือไกลจากพระบิดาบนสวรรค์เพียงใด เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาความจริงเมื่อพวกเขาศึกษา กิจการของอัครทูต 23-26 ที่จะช่วยพวกเขาเมื่อพวกเขารู้สึกว่าได้ออกห่างจากพระผู้เป็นเจ้าและพรของพระองค์

เตือนนักเรียนว่าเปาโลถูกจับนอกพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มและถูกนำไปอยู่ต่อหน้าผู้นำชาวยิว (ดู กิจการของอัครทูต 21:30–33; 22:23–30) สรุป กิจการของอัครทูต 23:1-10 โดยอธิบายว่าเปาโลถูกผู้นำชาวยิวสอบสวนและถูกขังคุก

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 23:11 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่เปาโลอยู่ในคุก เชื้อเชิญให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ

  • พระเจ้าตรัสอะไรกับเปาโลในคุก

เตือนนักเรียนถึงคำสัญญาที่บันทึกใน กิจการของอัครทูต 18:9–10 ว่าพระเจ้าจะทรงอยู่กับเปาโลและทรงปกป้องเขาเมื่อเขาทำงานของพระเจ้า เชื้อเชิญให้นักเรียนทำเครื่องหมายตรงประโยคที่ว่า “พระเจ้าทรงมายืนอยู่ข้างเปาโล” และเขียน กิจการของอัครทูต 18:9–10 เป็นข้ออ้างโยงในช่องว่างริมหน้าข้าง ข้อ 11

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงสรุปความต่อไปนี้

ใน กิจการของอัครทูต 23:12–25:27 เราเรียนรู้ว่านายพันทหารโรมันที่จับเปาโลส่งเขาไปที่เมืองซีซารียาเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มชาวยิวสังหารเขา เปาโลประกาศความบริสุทธิ์ของเขาต่อหน้าเฟลิกซ์ผู้ว่าราชการเมืองชาวโรมัน แม้จะเชื่อในความบริสุทธิ์ของเปาโล แต่เฟลิกซ์ยังคงคุมขังเปาโลไว้ในคุกสองปี เฟสทัสรับตำแหน่งแทนเฟลิกซ์ในฐานะผู้ว่าราชการเมืองแคว้นยูเดีย กษัตริย์เฮโรด อากริปปาซึ่งปกครองพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลกาลิลีมาเยี่ยมเฟสทัสและประสงค์จะฟังคดีของเปาโล เปาโลถูกนำมาอยู่ต่อหน้ากษัตริย์อากริปปา

กิจการของอัครทูต 26

ท่านเล่าเรื่องการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของท่านอีกและเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ต่อหน้ากษัตริย์อากริปปา

เชื้อเชิญนักเรียนสองสามคนผลัดกันอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 26:4–11 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเปาโลบรรยายถึงอดีตของเขาให้กษัตริย์อากริปปาฟังอย่างไร

  • เปาโลบรรยายถึงอดีตของเขาให้กษัตริย์อากริปปาฟังอย่างไร

อธิบายว่าจากนั้นเปาโลบรรยายถึงนิมิตของเขาเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอด เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 26:16–18 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาพันธกิจที่พระเจ้าทรงมอบหมายแก่เปาโลบนถนนสู่ดามัสกัส

  • พระเจ้าทรงมอบหมายพันธกิจอะไรแก่เปาโล (ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายข้อความที่บรรยายถึงพันธกิจที่พระเจ้าทรงมอบหมายแก่เปาโล)

อธิบายว่าในบริบทนี้คำว่า มีส่วน (ข้อ 18) หมายถึงการเข้าสู่อาณาจักรซีเลสเชียลของพระผู้เป็นเจ้า

  • อะไรที่สามารถช่วยบางคนให้หันไปจากความมืดและอิทธิพลของซาตาน โดยหันไปหาความสว่างและพระบัญญัติตลอดจนพรของพระผู้เป็นเจ้า

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 26:19–23 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่เปาโลบอกว่าเขาสอนทั้งชาวยิวและคนต่างชาติว่าพวกเขาต้องทำอะไรเพื่อได้รับพรดังที่กล่าวไว้ใน ข้อ 18 ท่านอาจอธิบายว่าวลี “ทำสิ่งที่แสดงถึงการกลับใจใหม่” ใน ข้อ 20 หมายถึงการดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมเพื่อแสดงให้เห็นว่าท่านได้กลับใจแล้วอย่างแท้จริง

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 20 เปาโลสอนทั้งชาวยิวและคนต่างชาติให้ทำอะไร

เขียนข้อความที่ไม่ครบถ้วนต่อไปนี้บนกระดาน หากเรากลับใจและหันไปหาพระผู้เป็นเจ้า …

  • จาก สิ่งที่เราเรียนรู้ใน ข้อ 18 ท่านจะเติมข้อความบนกระดานให้ครบถ้วนว่าอย่างไร (สรุปคำตอบของนักเรียนโดยเติมข้อความบนกระดานให้ครบถ้วนเพื่อให้อ่านได้ดังนี้ หากเรากลับใจและหันไปหาพระผู้เป็นเจ้า เราสามารถเอาชนะอำนาจของซาตานในชีวิตเรา รับการอภัยบาปของเรา และมีคุณสมบัติคู่ควรแก่อาณาจักรซีเลสเชียล)

เพื่อช่วยนักเรียนเข้าใจหลักธรรมนี้ เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง (ท่านอาจเตรียมสำเนาคำพูดนี้แจกนักเรียน)

ภาพ
เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น

“เมื่อเราทำบาป เราหันหลังให้พระผู้เป็นเจ้า เมื่อเรากลับใจ เราหวนกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า

“พระดำรัสเชื้อเชิญให้กลับใจน้อยนักจะเป็นสุรเสียงแห่งการตีสอน ในทางตรงกันข้ามกลับเป็นคำวิงวอนจากความรักให้หันกลับมาและหวนคืนไปหาพระผู้เป็นเจ้า [ดู ฮีลามัน 7:17] นี่คือการเชื้อเชิญจากพระบิดาผู้ทรงรักเราและพระบุตรองค์เดียวที่ถือกำเนิดของพระองค์ให้เราเป็นมากกว่าที่เราเป็นอยู่เวลานี้ ให้ขึ้นไปสู่วิถีชีวิตที่สูงขึ้น ให้เปลี่ยน และให้สัมผัสความสุขของการรักษาพระบัญญัติ” (“จงกลับใจ … เพื่อเราจะรักษาเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ย. 2009, 50)

  • ตามคำกล่าวของเอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็น เราจะได้อะไรเมื่อเรากลับใจและหวนคืนไปหาพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์

เมื่อพวกเขาศึกษา กิจการของอัครทูต 26 เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาว่าอะไรที่ปิดกั้นเฟสทัสและกษัตริย์อากริปปาจากการกลับใจ หันมาหาพระผู้เป็นเจ้า และเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์ เขียนข้อความที่ไม่ครบถ้วนต่อไปนี้ไว้บนกระดาน เพื่อเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์ …

แบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ๆ เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่าน กิจการของอัครทูต 26:24-28 กับคู่ ขอให้พวกเขาระบุและเปรียบเทียบวิธีที่เฟสทัสและกษัตริย์อากริปปาตอบสนองต่อคำสอนและประจักษ์พยานถึงพระผู้ช่วยให้รอดของเปาโล ขณะที่นักเรียนอ่านและสนทนากับคู่ของพวกเขา ให้ลอก แผนภูมิ ต่อไปนี้ลงบนกระดาน (ไม่ต้องลอกข้อความใต้หัวข้อแต่ละข้อ)

การตอบสนองต่อคำสอนของเปาโล

เฟสทัส

กษัตริย์อากริปปา

ร้องเสียงดัง

บอกว่าเปาโลคลั่ง

กล่าวหาว่าเปาโลคลั่ง

เกือบถูกชักชวนให้เป็นชาวคริสต์

หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญนักเรียนหลายๆ คนออกมาที่กระดานและเขียนสิ่งที่พวกเขาพบ (คำตอบควรคล้ายคลึงกับวลีในแผนภูมิข้างบน)

  • การตอบสนองของเฟสทัสบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับความคิดเห็นของเขาต่อคำสอนของเปาโล (เพิ่มคำว่า ไม่เชื่อ เข้าไปในคำตอบของนักเรียนใต้หัวข้อ “เฟสทัส”)

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 27 เปาโลบอกว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับกษัตริย์อากริปปา (เพิ่ม เชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะ ใต้หัวข้อ “กษัตริย์อากริปปา”)

  • เราสามารถเรียนรู้อะไรจากคำพูดที่กษัตริย์อากริปปากล่าวแก่เปาโลเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาของกษัตริย์อากริปปาที่จะเป็นชาวคริสต์ (ดู ข้อ 28) (เพิ่ม ไม่เต็มใจที่จะผูกมัดตนเองเต็มที่ ใต้หัวข้อ “กษัตริย์อากริปปา”)

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 26:29 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเปาโลตอบสนองอย่างไรต่อคำพูดของกษัตริย์อากริปปาว่าเขาเกือบถูกชวนให้เป็นชาวคริสต์แล้ว

  • เปาโลปรารถนาสิ่งใดให้กับกษัตริย์และทุกคนที่ได้ยินคำสอนของเขา

  • ท่านคิดว่าอะไรที่กีดกั้นไม่ไห้เฟสทัสเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์

  • ท่านคิดว่าอะไรที่กีดกั้นไม่ให้กษัตริย์อากริปปาเปลี่ยนใจเลื่อมใส

  • เราเรียนรู้อะไรจากเฟสทัสและกษัตริย์อากริปปาเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องทำเพื่อเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์ (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่ให้แน่ใจว่าพวกเขาระบุหลักธรรมต่อไปนี้ เพื่อเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์ เราต้องเลือกที่จะเชื่อในพระกิตติคุณและผูกมัดตนอย่างเองเต็มที่ในการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักธรรมนี้ เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านเรื่องเล่าต่อไปนี้ของประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งฝ่ายประธานสูงสุด

ภาพ
ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

“เด็กชายสองคนพี่น้องยืนบนหน้าผาเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งมองลงไปเห็นผืนน้ำทะเลสาบสีฟ้าสะอาดใส นี่คือจุดที่คนนิยมมากระโดดน้ำ พี่น้องสองคนนี้มักจะคุยกันเรื่องการกระโดด—อย่างที่เคยเห็นคนอื่นๆ ทำ

“ถึงแม้ทั้งคู่ต้องการกระโดด แต่ไม่มีใครต้องการกระโดดเป็นคนแรก หน้าผาไม่สูงนัก แต่สำหรับเด็กชายสองคนนี้ ดูเหมือนว่าความสูงจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเริ่มชะโงกไปข้างหน้า—และความกล้าก็พลันหายไป

ในที่สุด น้องชายก็ก้าวเท้าข้างหนึ่งไปเหยียบริมหน้าผาพลางขยับไปข้างหน้าอย่างหมายมั่น ช่วงเวลานั้นเอง พี่ของเขากระซิบว่า ‘บางทีเราน่าจะรอให้ถึงฤดูร้อนหน้า’

แต่ขณะนั้นแรงขับเคลื่อนได้ดึงน้องชายไปข้างหน้าแล้ว ‘พี่ครับ’ เขาตอบ ‘ผมตัดสินใจแน่วแน่แล้ว!’

“เขาพุ่งตัวลงไปในน้ำและโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนอย่างมีชัยชนะ พี่ชายรีบกระโดดตามลงไปทันที หลังจากนั้นทั้งคู่หัวเราะกับคำพูดของเด็กชายคนแรกก่อนทั้งคู่จะกระโดดลงน้ำ ‘พี่ครับ ผมตัดสินใจแน่วแน่แล้ว’

“คำมั่นสัญญาค่อนข้างคล้ายคลึงกับการกระโดดลงน้ำ ท่านจะผูกมัดตนเองหรือไม่ ท่านจะขยับไปข้างหน้าหรือยืนอยู่กับที่ ไม่มีคำว่าครึ่งทาง …

“ผู้ที่ผูกมัดตนในพระกิตติคุณเพียงระดับหนึ่งอาจคาดหวังที่จะรับพรจากประจักษ์พยาน ปีติ และสันติสุขได้เพียงระดับหนึ่ง หน้าต่างฟ้าสวรรค์อาจเปิดให้พวกเขาเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น …

“เราต่างยืนในจุดที่ต้องตัดสินใจเหนือผืนน้ำในทางใดทางหนึ่ง ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้เรามีศรัทธา ก้าวไปข้างหน้า เผชิญหน้ากับความกลัวและความเคลือบแคลงสงสัยด้วยความกล้าหาญ จงกล่าวกับตนเองว่า ‘ฉันตัดสินใจแน่วแน่แล้ว!’” (“พี่ครับ ผมตัดสินใจแน่วแน่แล้ว,” เลียโฮนา, ก.ค. 2011, 4, 5)

  • คำมั่นสัญญาที่จะดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณคล้ายคลึงกับการกระโดดลงน้ำอย่างไร

  • ตามคำกล่าวของประธานอุคท์ดอร์ฟ เหตุใดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะผูกมัดตนเต็มที่แทนที่จะ “ผูกมัดตนในระดับหนึ่ง” ในการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ

  • คำมั่นสัญญาของท่านในการดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติหรือหลักธรรมของพระกิตติคุณช่วยเสริมสร้างการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของท่านสู่พระเยซูคริสต์อย่างไร (ท่านอาจแบ่งปันตัวอย่างของท่านเอง)

เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนรายการพระบัญญัติหรือหลักธรรมพระกิตติคุณที่พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาผูกมัดตนเองเต็มที่ว่าจะดำเนินชีวิตตามลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขา ขอให้พวกเขาพิจารณาหลักธรรมพระกิตติคุณข้อใดข้อหนึ่งที่พวกเขารู้สึกว่าผูกมัดตนเองในการดำเนินชีวิตตาม “ช่วงสั้น” แต่ไม่ “ยาว” (กิจการของอัครทูต 26:29) เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนเป้าหมายของสิ่งที่พวกเขาทำได้เพื่อเพิ่มความเข้าใจและคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับหลักธรรมข้อหนึ่งในบรรดาหลักธรรมเหล่านี้ กระตุ้นให้นักเรียนสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือขณะที่พวกเขาพยายามเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระเยซูคริสต์โดยดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

สรุป กิจการของอัครทูต 26:30–32 โดยอธิบายว่าเฟสทัสและกษัตริย์อากริปปาพบว่าเปาโลบริสุทธิ์และจะปล่อยเขา แต่เนื่องจากเปาโลยื่นฎีกาคดีของเขาไปที่ซีซาร์พวกเขาจึงต้องส่งเปาโลไปที่กรุงโรม

สรุปโดยทบทวนและเป็นพยานถึงหลักธรรมที่สอนใน กิจการของอัครทูต 23–26

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

กิจการของอัครทูต 25:13 เฮโรด อากริปปาคือใคร

สำหรับแผนภูมิที่เป็นประโยชน์ซึ่งแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกหลายๆ คนในครอบครัวเฮโรดที่พูดถึงในพันธสัญญาใหม่ ดูหัวข้อ “เฮโรด” ใน คู่มือพระคัมภีร์

“เฮโรด อากริปปา ที่สอง (มีชื่อว่ามาร์คัส จูเลียส อากริปปาด้วย) เป็นกษัตริย์คนที่เจ็ดและคนสุดท้ายในราชวงศ์เฮโรดของชาวยิว เขาปกครองอาณาเขตทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลกาลิลีจาก ค.ศ. 55 ถึง 93 เขาเป็นพระโอรสของเฮโรด อากริปปา ที่หนึ่งผู้ที่สั่งประหารยากอบและจับเปโตรขังคุก (ดู กิจการของอัครทูต 12:1–4) เป็นหลานของเฮโรด อันทีพา คนที่สั่งตัดศีรษะของยอห์นผู้ถวายบัพติศมา (ดู มัทธิว 14:1–12) และเป็นเหลนของเฮโรดมหาราชคนที่สั่งฆ่าเด็กทารกในเบธเลเฮม (ดู มัทธิว 2:16)

“อาณาจักรของอากริปปาอยู่ทางเหนืออาณาเขตของเฟสทัส อากริปปาและพระนางเบอร์นิสน้องสาวของเขา … ไปเยือนเมืองซีซารียาขณะที่เปาโลถูกคุมขังที่นั่น เนื่องจากอากริปปาเป็นคนยิวจึงคุ้นเคยกับเรื่องของชาวยิวมากกว่าเฟสทัสซึ่งเป็นคนโรมัน เฟสทัสหวังว่าอากริปปาจะช่วยให้เขาเข้าใจข้อกล่าวหาที่มีต่อเปาโลและช่วยเขาร่างสาส์นถึงซีซาร์ด้วย (ดู กิจการของอัครทูต 25:24–27; 26:3)” (คู่มือนักเรียน พันธสัญญาใหม่ [คู่มือของระบบการศึกษาของศาสนจักร, 2014], 326)

กิจการของอัครทูต 26:24 “เปาโล เจ้าคลั่งไปเสียแล้ว เจ้าเรียนรู้มากจนจนทำให้เจ้าคลั่งไป”

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธเปรียบเทียบการข่มเหงที่ท่านประสบหลังจากนิมิตแรกของท่านกับประสบการณ์ของอัครสาวกเปาโล (ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:24–25) ทั้งเปาโลและโจเซฟ สมิธเห็นพระผู้ช่วยให้รอดและได้ยินสุรเสียงของพระองค์ ทั้งสองเป็นพยานว่าพวกเขาเห็นนิมิต ผลที่ตามมาคือ ทั้งสองถูกข่มเหงและถูกใส่ร้าย กระนั้นพวกเขายังคงแน่วแน่ต่อพยานและประจักษ์พยานถึงพระเยซูคริสต์ นอกจากนั้น มีการเล่าเรื่องนิมิตครั้งแรกของโจเซฟ สมิธหลายครั้ง เฉกเช่นมีการเล่าเรื่องนิมิตของเปาโลที่เห็นพระผู้ช่วยให้รอดหลายครั้งเช่นกัน (ดู กิจการของอัครทูต 9:3–9; กิจการของอัครทูต 22:6–11; กิจการของอัครทูต 26:13–18) แม้จะมีรายละเอียดเล็กน้อยที่แตกต่าง แต่การเล่าเรื่องหลายครั้งของพวกเขาสอดคล้องกันในความจริงที่สำคัญยิ่งว่าเขาแต่ละคนได้เห็นและสนทนากับพระเยซูคริสต์

กิจการของอัครทูต 26:28 “เจ้าจะชวนเราเป็นคริสเตียน ในช่วงเวลาสั้นๆ หรือ”

ขณะรับใช้เป็นสมาชิกในโควรัมสาวกเจ็ดสิบ เอ็ลเดอร์บรูซ ซี. ฮาเฟนสอนว่า

“ถ้าเราต้องให้สารพัดสิ่งที่เรามี การให้ เกือบ ทุกสิ่งจึงยังไม่พอ ถ้าเรา เกือบ จะรักษาพระบัญญัติ เราก็ เกือบ ได้รับพร” (“การชดใช้: ทั้งหมดเพื่อทั้งหมด,” เลียโฮนา, พ.ค. 2004, 119)

ประธานฮาโรลด์ บี. ลีประยุกต์ใช้คำของกษัตริย์อากริปปากับสมาชิกศาสนจักรที่พยายามหาเหตุเลี่ยงการรักษาพระบัญญัติดังนี้

“อธิการที่ดีท่านหนึ่งแสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเรียกว่าคำที่น่าเศร้าที่สุดที่เขารู้จักเกี่ยวกับชายที่มียศถาบรรดาศักดิ์ เขาอ่านจากคำพูดในสมัยอัครสาวกเปาโลเมื่อเปาโลแสดงประจักษ์พยานอันทรงพลังของเขาเกี่ยวกับการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของเขาต่อหน้ากษัตริย์อากริปปา คำตอบของกษัตริย์อากริปปาคือ “เจ้าจะชวนเราเป็นคริสเตียน ในช่วงเวลาสั้นๆ หรือ” (กิจการของอัครทูต 26:28) จากนั้นอธิการคนนั้นบอกว่า ‘กษัตริย์รู้ความจริงแต่เขาขาดความกล้าหาญที่จะทำสิ่งที่ต้องทำ …’

“และจากนั้น [อธิการ] ได้บอกลักษณะบางอย่างที่เขาค้นพบในวอร์ดของเขาเองในโอวาทสั้นๆ แต่มีพลัง ‘ในการตอบพระอาจารย์ที่ทรงเชื้อเชิญให้ “มาติดตามเรา” (มาระโก 10:21) สมาชิกบางคนเกือบ’ เขากล่าว ‘แต่ก็ไม่ค่อย พูดว่า “ท่านเกือบชวนข้าพเจ้าให้เป็นคนซื่อสัตย์แต่ข้าพเจ้าต้องการความช่วยเหลือนิดหน่อยเพื่อให้สอบผ่าน”’ …

“[อธิการกล่าวต่อไปว่า] ‘ท่านเกือบชักจูงให้ข้าพเจ้ารักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์ แต่การเล่นบอลในวันอาทิตย์นั้นสนุก

“‘ท่านเกือบชวนข้าพเจ้าให้รักเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า แต่เขาเป็นคนพาล ให้อดทนต่อความคิดเห็นของผู้อื่น แต่พวกเขาคิดผิด … ให้ไปสอนประจำบ้าน แต่คืนนี้อากาศข้างนอกหนาวและชื้นมาก ให้จ่ายส่วนสิบและเงินบริจาค แต่เราต้องการโทรทัศน์สีเครื่องใหม่ … เกือบ! เกือบ! เกือบ!’” (ใน Conference Report, Apr. 1964, 23–24)