ฉันจะอธิบายการละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟูกับผู้อื่นได้อย่างไร

จงศึกษาข้อพระคัมภีร์และแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ร่วมกับการสวดอ้อนวอน อะไรจะช่วยให้เยาวชนเรียนรู้วิธีอธิบายการละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟูกับผู้อื่น

อาโมส 8:11–12; กิจการ 3:20–21; 2 เธสะโลนิกา 2:1–3 (การละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟูมีบอกไว้ล่วงหน้า)

เอเฟซัส 2:20 (ศาสนจักรตั้งอยู่บนรากฐานของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก)

ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “ศาสนจักรที่แท้จริงและดำรงอยู่เพียงแห่งเดียว,” เลียโฮนา, ส.ค. 2011, หน้า 49–51

“แสดงประจักษ์พยานบ่อยๆ,” สั่งสอนกิตติคุณของเรา (2004), หน้า 214–215

เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟู ให้ศึกษา “การละทิ้งความเชื่อครั้งใหญ่,” “การฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ผ่านโจเซฟ สมิธ,” สั่งสอนกิตติคุณของเรา (2004), หน้า 35–38

ในช่วงไม่กี่นาทีแรกของชั้นเรียนทุกชั้น จงช่วยเยาวชนทำการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่พวกเขากำลังเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ (เช่นการศึกษาส่วนตัว เซมินารี ชั้นเรียนอื่นของศาสนจักร หรือประสบการณ์กับเพื่อนๆ)ท่านจะช่วยให้พวกเขาเห็นความเกี่ยวเนื่องของพระกิตติคุณในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างไรแนวคิดด้านล่างนี้อาจเป็นประโยชน์:

• เชื้อเชิญให้เยาวชนแบ่งปันคำถามที่เคยมีคนถามพวกเขาเกี่ยวกับศาสนจักรหรือความเชื่อของพวกเขาพวกเขาตอบคำถามเหล่านี้อย่างไร

• เชื้อเชิญให้เยาวชนแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งพวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับการละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟูคนที่สอนพวกเขาทำอะไรเพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าใจความจริงเหล่านี้ของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู

กิจกรรมแต่ละอย่างด้านล่างจะช่วยให้เยาวชนเข้าใจวิธีพูดเรื่องการละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟูกับผู้อื่น เลือกกิจกรรมหนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นซึ่งจะได้ผลดีที่สุดกับชั้นเรียนของท่านตามการนำทางของพระวิญญาณ:

• ขอให้เยาวชนแบ่งปันข้อพระคัมภีร์ที่พวกเขารู้ซึ่งบอกล่วงหน้าว่าจะเกิดการละทิ้งความเชื่อครั้งใหญ่และการฟื้นฟู ถ้าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ แนะนำให้พวกเขาใช้คู่มือพระคัมภีร์ หรือให้ดูข้อพระคัมภีร์ที่เขียนไว้ในโครงร่างนี้ ให้เยาวชนฝึกใช้ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้และข้ออื่นๆ ที่พวกเขาหาเจอเพื่ออธิบายการละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟูให้กันฟัง

• อ่านหกย่อหน้าแรกด้วยกันในชั้นจากบทความของดัลลิน เอช. โอ๊คส์เรื่อง “ศาสนจักรที่แท้จริงและดำรงอยู่เพียงแห่งเดียว” ถามเยาวชนว่าเราจะเป็นพยานถึงศาสนจักรที่แท้จริงเพียงแห่งเดียวโดยไม่ทำให้ผู้อื่นขุ่นเคืองได้อย่างไร แบ่งหัวข้อที่เหลือในหมู่เยาวชน และขอให้พวกเขาอ่านหัวข้อที่ได้และมองหาสิ่งที่เอ็ลเดอร์โอ๊คส์ทำเพื่อเป็นพยานอันทรงพลังถึงพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูขณะที่ยังเคารพความเชื่อของผู้อื่น แบ่งนักเรียนเป็นคู่ๆ และเชื้อเชิญให้พวกเขาผลัดกันแสดงประจักษ์พยานถึงศาสนจักรที่แท้จริงโดยใช้สิ่งที่พวกเขาเรียนรู้

• เชื้อเชิญให้เยาวชนอ่านหัวข้อ “แสดงประจักษ์พยานบ่อยๆ” ในหน้า 214–215 ของสั่งสอนกิตติคุณของเรา ให้ชั้นเรียนเขียนเหตุผลต่างๆ ที่ต้องแสดงประจักษ์พยานเมื่อเราสอนและแนวทางสำหรับการแสดงประจักษ์พยาน เพื่ออธิบายความสำคัญของการแสดงประจักษ์พยานเมื่อสอนเรื่องการฟื้นฟู ให้เชิญผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่คนหนึ่งมาแบ่งปันกับชั้นเรียนว่าเขาหรือเธอได้รับประจักษ์พยานเกี่ยวกับนิมิตแรกของโจเซฟ สมิธอย่างไร (ขออนุญาตอธิการล่วงหน้า) ขอให้ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสคนนั้นแบ่งปันว่าประจักษ์พยานของผู้อื่นมีบทบาทอะไรในการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของเขาหรือเธอ ท่านอาจแบ่งปันประจักษ์พยานเรื่องการฟื้นฟูพระกิตติคุณและเชื้อเชิญให้เยาวชนแบ่งปันประจักษ์พยานของพวกเขา

• ขอให้เยาวชนศึกษาหัวข้อ “บทเรียนที่ใช้อุปกรณ์” ในหน้า 164 ของ ไม่มีการเรียกใดยิ่งใหญ่กว่าการสอน เชื้อเชิญให้พวกเขานึกถึงบทเรียนที่ใช้อุปกรณ์ซึ่งอาจจะช่วยพวกเขาอธิบายแง่มุมต่างๆ ของการละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟูกับผู้อื่น อาทิเช่น เพื่ออธิบายการละทิ้งความเชื่อ พวกเขาอาจจะสร้างศาสนจักรด้วยไม้บล็อก เขียนบนบล็อกล่างสุดว่า “อัครสาวกและศาสดาพยากรณ์” จากนั้นให้สาธิตว่าศาสนจักรจะตั้งอยู่ไม่ได้หากไม่มีรากฐานของอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ (ดู เอเฟซัส 2:20) เชื้อเชิญให้พวกเขาแบ่งปันกันเกี่ยวกับแนวคิดที่ได้จากบทเรียนที่ใช้อุปกรณ์ พวกเขามีโอกาสใดสอนผู้สอนเกี่ยวกับการละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟู

ขอให้เยาวชนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้วันนี้ พวกเขาเข้าใจวิธีอธิบายการละทิ้งความเชื่อและการฟื้นฟูให้ผู้อื่นฟังหรือไม่ พวกเขามีความรู้สึกหรือความประทับใจอะไรบ้าง พวกเขามีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่ การใช้เวลามากขึ้นกับหัวข้อนี้จะคุ้มค่าหรือไม่

ถามเยาวชนว่าพวกเขารู้สึกได้รับการดลใจให้ทำอะไรเนื่องจากสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้วันนี้กระตุ้นพวกเขาให้กระทำตามความรู้สึกเหล่านี้แสวงหาพระวิญญาณขณะที่ท่านพิจารณาวิธีติดตามผลร่วมกับการสวดอ้อนวอน