คลังค้นคว้า
ฉันจะใช้เพลงของศาสนจักรเรียนเรื่องแผนแห่งความรอดได้อย่างไร


ฉันจะใช้เพลงของศาสนจักรเรียนเรื่องแผนแห่งความรอดได้อย่างไร

ฝ่ายประธานสูงสุดสอนว่า “คำเทศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบางอย่างเป็นการเทศนาโดยการร้องเพลงสวดเพลงสวดนำเราไปสู่การกลับใจและงานดี สร้างประจักษ์พยานและศรัทธา ปลอบโยนผู้เหนื่อยหน่าย ปลอบประโลมผู้โศกเศร้า และดลใจเราให้อดทนไปจนถึงที่สุด” (เพลงสวด, ix)หลักธรรมส่วนใหญ่ของพระกิตติคุณ รวมถึงหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับแผนแห่งความรอด ได้รับการสอนอย่างมีประสิทธิภาพผ่านเพลงสวดและเพลงอื่นๆ ของศาสนจักร

เตรียมตัวท่านทางวิญญาณ

ท่านได้เรียนรู้ความจริงพระกิตติคุณอะไรบ้างจากเพลงสวดและเพลงอื่นๆ ของศาสนจักร เพลงมีอิทธิพลอย่างไรต่อประจักษ์พยานและศรัทธาของท่าน ประสบการณ์ใดสอนท่านให้รู้ถึงพลังของเพลง

เพลงกำลังมีอิทธิพลอย่างไรต่อชีวิตของเยาวชนที่ท่านสอน เยาวชนคนใดอาจจะสามารถช่วยท่านสอนเยาวชนคนอื่นๆ ได้เกี่ยวกับพลังสร้างสรรค์ของเพลง

จงศึกษาข้อพระคัมภีร์และแหล่งข้อมูลเหล่านี้ร่วมกับการสวดอ้อนวอน ท่านรู้สึกได้รับการดลใจให้แบ่งปันอะไรกับเยาวชน

โคโลสี 3:16 (สอนกันผ่านเพลงสวดหรือเพลงต่างๆ)

คพ. 25:12 (เพลงของคนชอบธรรมเป็นการสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้า)

ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “นมัสการโดยทางดนตรี,” เลียโฮนา, ก.พ. 1995, หน้า 9–12

“ดนตรีและการเต้นรำ,” เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน (2011), หน้า 22–23

“คำกล่าวของฝ่ายประธานสูงสุด,” เพลงสวด, ix–x

การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด

พระผู้ช่วยให้รอดทรงวางใจคนที่พระองค์ทรงสอน พระองค์ทรงเตรียมพวกเขาและทรงมอบความรับผิดชอบอันสำคัญให้พวกเขาสอน ให้พร และรับใช้ผู้อื่น การเรียกท่านให้สอนเยาวชนเป็นหลักฐานยืนยันความไว้วางใจของพระผู้ช่วยให้รอดในตัวท่านอย่างไร ท่านจะแสดงให้เยาวชนเห็นได้อย่างไรว่าท่านวางใจว่าพวกเขาสามารถสอนได้

ทำการเชื่อมโยง

ในช่วงแรกของชั้นเรียนทุกครั้ง จงช่วยเยาวชนทำการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่พวกเขากำลังเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ (เช่นการศึกษาส่วนตัว เซมินารี ชั้นเรียนอื่นของศาสนจักร หรือประสบการณ์กับเพื่อนๆ) ท่านจะช่วยให้พวกเขาเห็นความเกี่ยวเนื่องของพระกิตติคุณในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างไร แนวคิดด้านล่างอาจจะช่วยท่านได้:

  • ขอให้เยาวชนแบ่งปันบางสิ่งที่พวกเขาอยากบอกเพื่อนเกี่ยวกับแผนแห่งความรอด พวกเขาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยให้เพื่อนเรียนรู้

  • อ่าน “คำกล่าวของฝ่ายประธานสูงสุด” ในหนังสือเพลงสวด (หน้า ix–x) ด้วยกันในชั้น เชื้อเชิญให้เยาวชนเขียนสิ่งที่ฝ่ายประธานสูงสุดขอให้เราทำและพรที่พวกท่านสัญญาบนกระดาน

เรียนรู้ด้วยกัน

กิจกรรมแต่ละอย่างด้านล่างนี้จะช่วยให้เยาวชนใช้เพลงของศาสนจักรเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนแห่งความรอด เลือกกิจกรรมหนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นซึ่งจะได้ผลดีที่สุดกับชั้นเรียนของท่านตามการนำทางของพระวิญญาณ:

  • แสดงให้เยาวชนดูวิธีใช้ดรรชนีหัวข้อของหนังสือเพลงสวดหรือหนังสือเพลงสำหรับเด็กเพื่อหาเพลงเกี่ยวกับแผนแห่งความรอด เชื้อเชิญให้เยาวชนแต่ละคนเลือกเพลงสวดหรือเพลงหนึ่งเพลงและศึกษาเนื้อร้องกับข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง (อยู่ท้ายเพลงแต่ละเพลง) พวกเขาได้ข้อคิดอะไรบ้างเกี่ยวกับแผนแห่งความรอดจากเนื้อร้องของเพลงสวด

  • เขียนหัวข้อต่อไปนี้บนกระดาน: “ชีวิตก่อนเกิด” “ชีวิตมรรตัย” และ “ชีวิตหลังความตาย” เชื้อเชิญให้เยาวชนร้องหรือฟังเพลง “โอ้ พระบิดา” (เพลงสวด, บทเพลงที่ 142) ขอให้พวกเขาระบุว่าเพลงสวดเพลงนี้สอนอะไรเกี่ยวกับแผนแห่งความรอดทั้งสามช่วงและเขียนสิ่งที่พวกเขาพบใต้หัวข้อที่เหมาะสมบนกระดาน พวกเขาเรียนรู้อะไรอีกบ้างจากเพลงสวดเพลงนี้เกี่ยวกับแผนของพระบิดาบนสวรรค์สำหรับเรา เพลงสวดหรือเพลงเด็กเพลงใดอีกที่พวกเขานึกออกว่าสอนเกี่ยวกับแผนแห่งความรอด กระตุ้นพวกเขาให้แบ่งปันความคิดและความรู้สึกในเรื่องที่ว่าพระวิญญาณทรงสามารถสอนเราผ่านเพลงได้อย่างไร

ขอให้เยาวชนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้วันนี้ พวกเขาเข้าใจวิธีใช้เพลงของศาสนจักรสอนและเรียนเรื่องแผนแห่งความรอดหรือไม่ พวกเขามีความรู้สึกหรือความประทับใจอะไรบ้าง พวกเขามีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่ การใช้เวลามากขึ้นกับหัวข้อนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับการสอน

“ในการช่วยให้ผู้เรียนเตรียมตอบคำถาม ท่านอาจต้องการบอกเขาก่อนจะอ่านหรือนำเสนอบางสิ่งที่ท่านกำลังจะขอคำตอบจากเขา ตัวอย่างเช่น ท่านอาจพูดว่า ‘ขอให้ฟังผมอ่านข้อความต่อไปนี้เพื่อท่านจะบอกได้ว่าท่านสนใจอะไรมากที่สุดจากข้อความที่ผมอ่าน’ หรือ ‘ขณะที่อ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ ให้ดูว่าท่านเข้าใจหรือไม่ว่าพระเจ้าทรงบอกอะไรเราเกี่ยวกับศรัทธา” (ไม่มีการเรียกใดยิ่งใหญ่กว่าการสอน[1999], หน้า 69)

เชื้อเชิญให้ลงมือทำ

ขอให้เยาวชนไตร่ตรองสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้วันนี้เกี่ยวกับการสอนและการเรียนรู้ด้วยเพลง พวกเขารู้สึกได้รับการดลใจให้ทำอะไรเนื่องด้วยสิ่งที่เรียนรู้ นั่นจะส่งผลอย่างไรต่อการศึกษาพระกิตติคุณของพวกเขา วิธีที่พวกเขาคิดเกี่ยวกับเพลง และโอกาสการสอนในอนาคตของพวกเขา