คลังค้นคว้า
ฉันจะเรียนรู้ในการมองเห็นพระหัตถ์ของพระบิดาบนสวรรค์ในทุกสิ่งได้อย่างไร


ฉันจะเรียนรู้ในการมองเห็นพระหัตถ์ของพระบิดาบนสวรรค์ในทุกสิ่งได้อย่างไร

ศาสดาพยากรณ์แอลมาสอนว่า “ทุกสิ่งชี้ให้เห็นว่ามีพระผู้เป็นเจ้า” (แอลมา 30:44)พระบิดาบนสวรรค์ทรงรักเราและทรงอวยพรเราทุกวันถ้าเราช่างสังเกต เราจะเห็นหลักฐานยืนยันเดชานุภาพและอิทธิพลของพระองค์ในชีวิตเราและในโลกรอบตัวแม้เราจะไม่เห็นพระองค์เป็นส่วนตัว แต่การรู้ซึ้งถึงพระหัตถ์ของพระองค์ในทุกสิ่งสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ประจักษ์พยานของเราได้ว่าพระองค์ทรงพระชนม์

เตรียมตัวท่านทางวิญญาณ

ท่านสังเกตเห็นอิทธิพลของพระบิดาบนสวรรค์ในชีวิตท่านเมื่อใด ท่านทำอะไรเพื่อให้ตระหนักถึงพระเมตตาอันละเอียดอ่อน
ของพระองค์

ท่านเห็นพระหัตถ์ของพระบิดาบนสวรรค์ในด้านใดบ้างในชีวิตของเยาวชน อะไรจะขัดขวางเยาวชนไม่ให้ตระหนักถึงอิทธิพลของพระบิดาบนสวรรค์ในชีวิตพวกเขา การเรียนรู้ที่จะตระหนักถึงอิทธิพลของพระองค์จะเป็นพรแก่พวกเขาเวลานี้และในอนาคตอย่างไร

ศึกษาข้อพระคัมภีร์และแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ร่วมกับการสวดอ้อนวอน อะไรจะช่วยให้เยาวชนตระหนักถึงพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตพวกเขา

สดุดี 145:9; 1 นีไฟ 1:20 (พระเมตตาอันละเอียดอ่อนของพระเจ้ามีอยู่เหนืองานทั้งหมดของพระองค์)

แอลมา 30:44; โมเสส 6:63 (ทุกสิ่งเป็นพยานว่ามีพระผู้เป็นเจ้า)

คพ. 59:21 (พระผู้เป็นเจ้าทรงขุ่นเคืองเมื่อเราไม่ตระหนักถึงพระหัตถ์ของพระองค์ในทุกสิ่ง)

เอ็ม. โจเซฟ บรัฟ, “พระหัตถ์พระองค์นำทางทุกวัน,” เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 23–26

ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “โอ้แผนของพระผู้เป็นเจ้าของเราสำคัญยิ่งเพียงใด!” เลียโฮนา, พ.ย. 2016, 19–22

คิม บี. คลาร์ก, ตาที่มองเห็นและหูที่ได้ยิน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 124–26

วีดิทัศน์: “God Is Our Father,” “We Lived with God” “The Will of God”  พระเมตตาอันละเอียดอ่อนของพระเจ้า “O Remember, Remember”

“พระองค์ยิ่งใหญ่,” เพลงสวด, บทเพลงที่ 34

การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด

พระผู้ช่วยให้รอดทรงเล่าเรื่องที่เรียบง่ายและยกตัวอย่างจากชีวิตจริง พระองค์ทรงช่วยให้ผู้ติดตามพระองค์ค้นพบบทเรียนพระกิตติคุณในชีวิตประจำวันของพวกเขาและในโลกรอบตัว มีตัวอย่างหรือประสบการณ์ใดบ้างจากชีวิตท่านที่จะช่วยให้เยาวชนเห็นว่าทุกอย่างเป็นพยานว่ามีพระผู้เป็นเจ้า เยาวชนมีประสบการณ์ใดบ้างที่พวกเขาสามารถแบ่งปันให้กันได้

ทำการเชื่อมโยง

ในช่วงไม่กี่นาทีแรกของชั้นเรียนทุกชั้น จงช่วยเยาวชนทำการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่พวกเขากำลังเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ (เช่นการศึกษาส่วนตัว เซมินารี ชั้นเรียนอื่นของศาสนจักร หรือประสบการณ์กับเพื่อนๆ) ท่านจะช่วยให้พวกเขาเห็นความเกี่ยวเนื่องของพระกิตติคุณในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างไร แนวคิดด้านล่างนี้อาจเป็นประโยชน์:

  • ขอให้เยาวชนแบ่งปันประสบการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเสริมสร้างประจักษ์พยานของพวกเขาเกี่ยวกับพระกิตติคุณ

  • แบ่งปันประสบการณ์เมื่อท่านเห็นหลักฐานยืนยันว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงนำทางชีวิตท่าน คุ้มครองท่าน หรืออวยพรท่าน แสดงประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์

เรียนรู้ด้วยกัน

กิจกรรมแต่ละอย่างด้านล่างนี้จะช่วยให้เยาวชนเข้าใจว่าจะตระหนักถึงพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตของพวกเขาอย่างไร เลือกกิจกรรมหนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นซึ่งจะได้ผลดีที่สุดกับชั้นเรียนของท่าน ตามการดลใจของพระวิญญาณ:

  • ใส่สิ่งของที่แสดงถึงพรที่พระบิดาบนสวรรค์ประทานให้เราลงใน “ชุดเอื้ออาทร” ตามที่ระบุไว้ในคำพูดของบราเดอร์เอ็ม. โจเซฟ บรัฟเรื่อง “พระหัตถ์พระองค์นำทางทุกวัน” แบ่งสิ่งของให้เยาวชนแต่ละคน เชื้อเชิญให้พวกเขาทบทวนคำพูดของบราเดอร์บรัฟและแบ่งปันว่าท่านสอนอะไรเกี่ยวกับชุดเอื้ออาทรของพระบิดาบนสวรรค์ เพื่อช่วยให้เยาวชนตระหนักถึงพระเมตตาและความรักที่พระบิดาบนสวรรค์มีให้พวกเขา เชื้อเชิญให้พวกเขาหยิบสิ่งของและแบ่งปันกับชั้นเรียนถึงพรอย่างหนึ่งที่พวกเขาได้รับจากพระบิดาบนสวรรค์ 

  • นึกถึงสิ่งของทั่วไปที่เยาวชนในชั้นเรียนของท่านอาจไม่สนใจถึงความสำคัญของสิ่งนั้น เช่นรองเท้า เชื้อเชิญให้พวกเขาสนทนาว่าชีวิตจะต่างไปอย่างไรหากไม่มีของสิ่งนั้น ใช้คำพูดของประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟเรื่อง “โอ้แผนของพระผู้เป็นเจ้าของเราสำคัญยิ่งเพียงใด!” เชื้อเชิญให้เยาวชนเขียนบนกระดานถึงสิ่งที่เราในฐานะสมาชิกศาสนจักรได้รับจากพระผู้เป็นเจ้าและอาจไม่ให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านั้น ท่านอาจให้เชิญผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่อธิบายความรู้สึกที่เขาหรือเธอมีเมื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความจริงของพระกิตติคุณเป็นครั้งแรกและว่าความจริงเหล่านั้นเปลี่ยนชีวิตพวกเขาอย่างไร เราทำอะไรได้บ้างที่จะตระหนักถึงพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตเราได้มากขึ้นและสำนึกคุณสำหรับสิ่งนั้น

  • เพื่อช่วยให้เยาวชนเรียนรู้ที่จะเห็นพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตพวกเขา เชื้อเชิญให้พวกเขาอ่านคำพูดของเอ็ลเดอร์คิม บี. คลาร์ก “ตาที่มองเห็นและหูที่ได้ยิน” พวกเขาเรียนรู้อะไรจากคำพูดนี้เกี่ยวกับวิธีการมองเห็นพระหัตถ์ของพระบิดาบนสวรรค์และฟังพระสุรเสียงของพระองค์ ในฐานะส่วนหนึ่งของการสนทนา ท่านอาจพูดเกี่ยวกับประโยชน์ของการมองเห็นและการได้ยินรวมถึงความท้าทายของการไม่สามารถมองเห็นหรือได้ยินได้ ท่านจะแสดงตัวอย่างถึงความสำคัญของการมองเห็นและการได้ยินทางวิญญาณอย่างไร มีตัวอย่างใดบ้างที่ท่านและเยาวชนจะแบ่งปันได้ถึงการได้ยินและการมองเห็นทางวิญญาณ

  • ฉายวีดิทัศน์หนึ่งเรื่องที่แนะนำในโครงร่างนี้ ขอให้เยาวชนฟังเหตุผลที่คนในวีดิทัศน์เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า คนเหล่านี้เห็นหลักฐานอะไรบ้างที่ยืนยันพระหัตถ์ของพระองค์ในโลกรอบตัวพวกเขา เยาวชนเห็นหลักฐานเพิ่มเติมอะไรบ้าง เชื้อเชิญเยาวชนให้แบ่งปันประจักษ์พยานเกี่ยวกับอิทธิพลของพระบิดาบนสวรรค์ในชีวิตพวกเขา

  • เชื้อเชิญเยาวชนให้ร้อง ฟัง หรืออ่านเพลงสวด “พระองค์ยิ่งใหญ่” ขอให้พวกเขาเขียนรายการหรือวาดรูปบนกระดานเกี่ยวกับสิ่งที่บ่งบอกความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าในเพลงสวดเพลงนี้ (พวกเขาอาจจะอ่านข้อพระคัมภีร์ที่อ้างไว้ท้ายเพลงสวดด้วยก็ได้) เยาวชนจะเพิ่มอะไรเข้าไปในรายการนี้ได้อีกบ้างที่เป็นพยานต่อพวกเขาถึงเดชานุภาพและความรักของพระผู้เป็นเจ้า เชื้อเชิญเยาวชนให้นึกถึงวิธีสร้างสรรค์ที่พวกเขาสามารถแสดงประจักษ์พยานถึงพระบิดาบนสวรรค์ ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจจะใช้รายการของพวกเขาเขียนเพลงสวดสั้นๆ ของตนเอง หรือถ่ายรูปและเตรียมสไลด์โชว์ กระตุ้นพวกเขาให้แบ่งปันสิ่งที่พวกเขาสร้างสรรค์ในชั้นเรียนคราวหน้า

  • เขียนประโยคที่ไม่สมบูรณ์ต่อไปนี้บนกระดาน: “ฉันจะนิยามพระเมตตาอันละเอียดอ่อนว่าเป็น_____________ ตัวอย่างหนึ่งของพระเมตตาอันละเอียดอ่อนคือ______________ ฉันอาจจะไม่สังเกตเห็นพระเมตตาอันละเอียดถ้า_____________” เชื้อเชิญเยาวชนให้ตรึกตรองว่าพวกเขาจะเติมประโยคเหล่านี้ให้สมบูรณ์ได้อย่างไรขณะอ่านหัวข้อ “อะไรคือพระเมตตาอันละเอียดอ่อนของพระเจ้า” ในคำปราศรัยของเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์เรื่อง “พระเมตตาอันละเอียดอ่อนของพระเจ้า” (หรือขณะชมวีดิทัศน์เรื่องเดียวกัน) เชื้อเชิญพวกเขาให้แบ่งปันความคิด เยาวชนเคยสังเกตเห็นตัวอย่างอะไรบ้างของพระเมตตาอันละเอียดอ่อนในชีวิตพวกเขา ประสบการณ์เหล่านี้เสริมสร้างประจักษ์พยานของพวกเขาในพระบิดาบนสวรรค์อย่างไร เชื้อเชิญพวกเขาให้นึกถึงคนที่พวกเขาอาจจะแบ่งปันประสบการณ์เพื่อช่วยเสริมสร้างศรัทธาของคนนั้น

ขอให้เยาวชนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้วันนี้ พวกเขามีความรู้สึกหรือความประทับใจอะไรบ้าง พวกเขาเข้าใจหรือไม่ว่าจะตระหนักถึงพระหัตถ์ของพระบิดาบนสวรรค์ในชีวิตของพวกเขาอย่างไร พวกเขามีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่ การใช้เวลามากขึ้นกับหัวข้อนี้คุ้มค่าหรือไม่

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับการสอน

“เมื่อบุคคลหนึ่งอ่านออกเสียง ท่านควรกระตุ้นให้ผู้อื่นดูตามในพระคัมภีร์ เชื้อเชิญให้เขาฟังและหาหลักธรรมหรือแนวคิดที่เฉพาะเจาะจงบางอย่าง ให้เวลาเปิดข้อความพระคัมภีร์ก่อนอ่าน” (ไม่มีการเรียกใดยิ่งใหญ่กว่าการสอน [1999], หน้า 56)

เชื้อเชิญให้ลงมือทำ

กระตุ้นเยาวชนให้พยายามตระหนักถึงพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตพวกเขาระหว่างสัปดาห์ที่จะมาถึง เชื้อเชิญพวกเขาให้บอกเล่าประสบการณ์ตอนเริ่มบทเรียนสัปดาห์หน้า