เซมินารี
บทที่ 33: หลักคำสอนและพันธสัญญา 27


บทที่ 33

หลักคำสอนและพันธสัญญา 27

คำนำ

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1830 นูเวล ไนท์กับแซลลีภรรยาเดินทางไปฮาร์โมนีย์ รัฐเพนน์ซิลเวเนียเพื่อเยี่ยมศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ แซลลี ไนท์กับเอ็มมา สมิธรับบัพติศมาเมื่อต้นฤดูร้อนที่ผ่านมาแต่ยังไม่ได้รับการยืนยันเพราะการข่มเหงจากกลุ่มคนร้าย ระหว่างครอบครัวไนท์มาเยือนฮาร์โมนีย์ พวกเขาตั้งใจจะให้แซลลีกับเอ็มมาได้รับการยืนยันและให้กลุ่มคนที่มากับจอห์น วิตเมอร์ได้รับส่วนศีลระลึกด้วยกัน เมื่อโจเซฟออกไปเอาเหล้าองุ่นมาทำศีลระลึก ผู้ส่งสารจากสวรรค์มาพบท่านและสื่อสารการเปิดเผยที่เวลานี้บันทึกไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 27

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:1–4

พระเจ้าประทานคำแนะนำเกี่ยวกับเครื่องหมายของศีลระลึก

ให้ดูเปลือกมันฝรั่งถ้ามีและขอให้นักเรียนทายว่าจะใช้เปลือกมันฝรั่งเพื่อจุดประสงค์ทางวิญญาณได้อย่างไร หลังจากนักเรียนสองสามคนตอบแล้ว ให้เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านข้อความต่อไปนี้จากความทรงจำของประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันเกี่ยวกับการไปเยือนยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ภาพ
ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน

“ข้าพเจ้าจะไม่ลืมวิสุทธิชนชาวฝรั่งเศสที่ใช้เปลือกมันฝรั่งเป็นเครื่องหมายของศีลระลึกเพราะไม่สามารถหาขนมปังได้” (“Prepare for the Days of Tribulation,” Ensign, Nov. 1980, 33–34)

  • ท่านจะคิดอย่างไรถ้าท่านเห็นการใช้เปลือกมันฝรั่งเป็นเครื่องหมายของศีลระลึก

  • ท่านคิดว่าเหตุใดการใช้สิ่งอื่นที่ไม่ใช่ขนมปังเป็นเครื่องหมายของศีลระลึกจึงเป็นเรื่องที่ยอมรับได้สำหรับวิสุทธิชนชาวฝรั่งเศส

เพื่อให้ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์สำหรับการเปิดเผยที่บันทึกไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 27ให้สรุปข้อมูลที่ให้ไว้ในคำนำของบทเรียน เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:1–2 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่เทพบอกโจเซฟ สมิธเกี่ยวกับเครื่องหมายของศีลระลึก

  • ผู้ส่งสารสอนอะไรโจเซฟ สมิธเกี่ยวกับสิ่งที่เราควรกินหรือดื่มขณะที่เรารับส่วนศีลระลึก (สิ่งที่เราใช้เป็นเครื่องหมายของศีลระลึกไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เครื่องหมายเหล่านั้นช่วยให้เราระลึกถึง)

  • ตามที่กล่าวไว้ในข้อเหล่านี้ เราควรมุ่งเน้นอะไรขณะรับส่วนศีลระลึก (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่คำตอบของพวกเขาควรสะท้อนหลักธรรมต่อไปนี้: ขณะที่เรารับส่วนศีลระลึก เราพึงระลึกถึงการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระเยซูคริสต์) ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายความจริงนี้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:2 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนา ท่านอาจต้องอธิบายว่าเรามี “ดวงตาที่เห็นแก่รัศมีภาพ [ของพระเจ้า] อย่างเดียว” เมื่อเรามุ่งเน้นที่พระองค์และทำให้ความประสงค์ของเราสอดคล้องกับพระองค์)

เพื่อช่วยให้นักเรียนรู้สึกถึงความสำคัญของความจริงนี้และพิจารณาว่าจะสามารถ ประยุกต์ใช้ ในชีวิตพวกเขาได้อย่างไร ให้สนทนาคำถามต่อไปนี้

  • ท่านเคยประสบอะไรบ้างเมื่อท่านใคร่ครวญการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดระหว่างการปฏิบัติศีลระลึก

  • เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้เราสามารถระลึกถึงการพลีพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์และรับส่วนศีลระลึก “ด้วยดวงตาที่เห็นแก่รัศมีภาพ [ของพระองค์] ” ได้ดีขึ้น

เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขาว่าพวกเขาจะทำอะไรเพื่อเตรียมรับส่วนศีลระลึกแต่ละสัปดาห์ กระตุ้นให้พวกเขาคิดหาวิธีระลึกถึงพระเยซูคริสต์และความหมายเบื้องหลังเครื่องหมายของศีลระลึก ท่านอาจต้องการเชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเขียน

สรุป หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:3–4 โดยอธิบายว่าพระเจ้าทรงเตือนโจเซฟ สมิธว่าอย่าซื้อเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มแรง (เครื่องดื่มที่ทำให้เมา) จากศัตรูของศาสนจักรมาใช้ในศีลระลึก พวกเขาต้องใช้เฉพาะเหล้าองุ่นที่วิสุทธิชน “ทำมันใหม่” อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนถ้ารู้ว่าตอนนั้นยังไม่มีการเปิดเผยพระคำแห่งปัญญาจนผ่านไปแล้วสองปีครึ่ง (ดู คพ. 89) และในศาสนจักรทุกวันนี้เราใช้น้ำประกอบพิธีศีลระลึก

หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:5–14

พระเจ้าจะทรงรับส่วนศีลระลึกอีกครั้งบนแผ่นดินโลก

ขอให้นักเรียนไตร่ตรองว่าประสบการณ์ในการรับส่วนศีลระลึกของพวกเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไรถ้าพวกเขารับส่วนศีลระลึกเบื้องพระพักตร์พระผู้ช่วยให้รอด เชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันความคิดของพวกเขา

เตือนนักเรียนว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงแนะนำศาสนพิธีศีลระลึกกับเหล่าอัครสาวกที่พระกระยาหารมื้อสุดท้าย ครั้งนี้พระเยซูคริสต์ทรงพยากรณ์ถึงเวลาที่พระองค์จะเสด็จกลับมายังแผ่นดินโลกและรับส่วนศีลระลึกอีกครั้งกับเหล่าสาวกของพระองค์ (ดู มัทธิว 26:26–29)

อธิบายว่าใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:5–12 พระเจ้าทรงเอ่ยชื่อแต่ละคนที่จะเข้าร่วมการประชุมนี้ เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านข้อเหล่านี้และระบุ (1) ชื่อบุคคลเหล่านี้ (2) ถ้ากล่าวถึง พวกเขามีกุญแจหรือความรับผิดชอบอะไรบ้าง เชิญนักเรียนคนหนึ่งเขียนข้อมูลนี้บนกระดานขณะนักเรียนที่เหลือรายงานสิ่งที่พบ (ท่านอาจต้องการอธิบายว่าตลอดประวัติศาสตร์ของแผ่นดินโลก พระเจ้าประทานสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตให้ชายที่ชอบธรรมช่วยปฏิบัติพระกิตติคุณของพระองค์ พระองค์ประทานกุญแจฐานะปุโรหิตให้ผู้นำฐานะปุโรหิตด้วยเพื่อพวกเขาจะสามารถกำกับดูแล ควบคุม และปกครองการใช้ฐานะปุโรหิตของพระองค์บนแผ่นดินโลก)

เมื่อรายการครบถ้วนแล้ว ให้เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:12–13 ขอให้ชั้นเรียนดูตามและระบุกุญแจที่พระเจ้าประทานแก่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

  • พระเจ้าทรงมอบหรือประทานกุญแจอะไรแก่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ (เชิญนักเรียนคนหนึ่งเพิ่มคำว่า โจเซฟ สมิธ และ กุญแจแห่งอาณาจักรของพระเจ้า เข้าไปในรายการบนกระดาน)

ชี้ให้เห็นว่าศาสดาพยากรณ์หลายท่านผู้มีชื่ออยู่ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 27 มาเยือนโจเซฟ สมิธเพื่อมอบกุญแจต่างๆ ให้ท่าน

ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายวลี “สมัยการประทานแห่งพระกิตติคุณเพื่อเวลาสุดท้าย; และเพื่อความสมบูรณ์แห่งเวลา” ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:13

  • ตามที่กล่าวไว้ในข้อนี้ พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงทำอะไรระหว่างสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา (“รวบรวมสรรพสิ่งทั้งปวงไว้เป็นหนึ่งเดียว”)

เขียนหลักคำสอนต่อไปนี้ไว้ใต้รายการบนกระดาน: สมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลารวบรวมกุญแจ ศาสนพิธี และความจริงพระกิตติคุณทั้งหมดของสมัยการประทานที่ผ่านมา

อธิบายว่าสมัยการประทานคือ “ช่วงเวลาที่พระเจ้าทรงมีผู้รับใช้ที่ได้รับสิทธิอำนาจอย่างน้อยหนึ่งคนบนแผ่นดินโลกผู้ถือ [กุญแจทั้งหลายของ] ฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์ … และมีภาระหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์ในการเผยแพร่พระกิตติคุณ” (Bible Dictionary, “Dispensations”) และปฏิบัติศาสนพิธีของพระกิตติคุณ เมื่อพระเจ้าทรงจัดตั้งสมัยการประทาน “พระองค์จะทรงเปิดเผยพระกิตติคุณอีกครั้งเพื่อผู้คนของสมัยการประทานนั้นจะไม่ต้องพึ่งสมัยการประทานที่ผ่าน ๆ มาสำหรับความรู้เรื่องแผนแห่งความรอด” (Bible Dictionary, “Dispensations”) อาดัม เอโนค โนอาห์ โมเสส และคนอื่นๆ เป็นหัวหน้าของสมัยการประทานพระกิตติคุณ โจเซฟ สมิธเป็นหัวหน้าของสมัยการประทานที่เรามีชีวิตอยู่—สมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา สมัยการประทานสุดท้ายนี้เริ่มด้วยการฟื้นฟูพระกิตติคุณผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ เรียกว่าสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลาเพราะกุญแจทั้งหมดที่พระเจ้าทรงเปิดเผยเพื่อเป็นพรแก่บุตรธิดาของพระองค์ได้รับการฟื้นฟู แผนและจุดประสงค์ทั้งหมดของพระเจ้านับแต่โลกเริ่มต้นจะเกิดสัมฤทธิผล

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:14 ขอให้นักเรียนที่เหลือดูตามและระบุว่าตามที่กล่าวไว้ในภาคนี้ใครจะอยู่ที่การประชุมศีลระลึกอีกบ้าง

  • ท่านคิดว่าวลี “คนทั้งปวงเหล่านั้นด้วยผู้ที่พระบิดาของเราประทานจากโลกให้เรา” หมายถึงใคร

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกีแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

ภาพ
เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกี

“คนซื่อสัตย์ทุกคนในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของโลก ทุกคนที่ดำเนินชีวิตจนคู่ควรแก่การได้รับชีวิตนิรันดร์ในอาณาจักรของพระบิดาจะเข้าร่วมและจะรับส่วนศีลระลึกกับพระเจ้า” (The Promised Messiah: The First Coming of Christ [1978], 595)

เพิ่ม ท่านและข้าพเจ้า เข้าไปในรายการบนกระดาน

  • ตามที่เอ็ลเดอร์แมคคองกีกล่าว เราต้องดำเนินชีวิตอย่างไรจึงจะได้อยู่ที่การประชุมศีลระลึกครั้งพิเศษนี้

หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:15–18

พระเจ้าทรงบัญชาให้ผู้คนของพระองค์สวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระผู้เป็นเจ้า

อธิบายว่า หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:15–18 ประกอบด้วยคำแนะนำที่จะช่วยให้เรามีค่าควรรับพรจากพระเจ้า รวมถึงพรของการเข้าร่วมการประชุมศีลระลึกดังที่กล่าวไว้ใน ข้อ 4–14

ถามนักเรียนว่าพวกเขาต้องการจะสวมอะไรถ้ารู้ว่าพวกเขาจะออกรบ จากนั้นให้เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:15 ขอให้ชั้นเรียนดูตามและหาดูว่า (1) พระเจ้าทรงบัญชาให้เราทำอะไรเพื่อเตรียมการสู้รบทางวิญญาณ และ (2) พระองค์ทรงสัญญาพรอะไรบ้างถ้าเราทำตามการนำทางของพระองค์

  • พระเจ้าทรงแนะนำให้เราทำอะไรเพื่อเตรียมการสู้รบทางวิญญาณ (สรุปคำตอบของนักเรียนโดยเขียนบนกระดานดังนี้: หากเราสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระผู้เป็นเจ้า …)

  • พระเจ้าทรงสัญญาพรใดกับคนที่สวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระผู้เป็นเจ้า (ขณะที่นักเรียนตอบ ให้เติมหลักธรรมบนกระดานให้ครบถ้วน: หากเราสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระผู้เป็นเจ้า เราจะสามารถต้านทานความชั่วร้ายได้)

ภาพ
คนสวมยุทธภัณฑ์

ลอก ภาพประกอบ บนกระดานโดยลากเส้นไปหายุทธภัณฑ์แต่ละชิ้นที่กล่าวไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:15–18 แบ่งชั้นเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ และมอบหมายยุทธภัณฑ์ให้กลุ่มละชิ้น แจกสำเนาข้อความต่อไปนี้ของประธานฮาโรลด์ บี. ลี ข้อมูลและคำถามในหมวดต่อไปนี้ เกี่ยวกับยุทธภัณฑ์แต่ละชิ้นให้แต่ละกลุ่ม เชื้อเชิญให้นักเรียนทำงานภายในกลุ่มเพื่อตอบคำถามสำหรับยุทธภัณฑ์ที่มอบหมายให้พวกเขาและเตรียมแบ่งปันคำตอบกับชั้นเรียน

ภาพ
ประธานฮาโรลด์ บี. ลี

“เรามีอวัยวะสี่ส่วนที่อัครสาวกเปาโลบอกว่า [เป็น] อวัยวะเปราะบางที่สุดต่ออำนาจของความมืด เอว เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์ทางเพศ หัวใจ เป็นสัญลักษณ์ของความประพฤติของเรา เท้าของเรา คือเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของเราในชีวิตและสุดท้าย ศีรษะของเราคือความคิดของเรา” (ฮาโรลด์ บี. ลี Feet Shod with the Preparation of the Gospel of Peace, Brigham Young University Speeches of the Year [Nov. 9, 1954], 2)

“คาดเอวไว้ด้วยความจริง” (ดู คพ. 27:15–16):

ประธานลีกล่าวว่า “เอวเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่อยู่ระหว่างซี่โครงล่างกับสะโพกซึ่งท่านคงทราบดีว่ามีอวัยวะสำคัญเกี่ยวกับการสืบพันธุ์อยู่ในนั้น” (Feet Shod, 2) การ คาด หมายถึงการรัดเข็มขัดแน่นๆ

  • ท่านคิดว่าเหตุใดซาตานจึงโจมตีความสะอาดหมดจด คุณธรรม และความบริสุทธิ์ทางเพศของเรา

  • ท่านคิดว่าการรู้มาตรฐานศีลธรรมของพระผู้เป็นเจ้าจะช่วยให้เราสะอาดหมดจด มีคุณธรรม และบริสุทธิ์ทางเพศได้อย่างไร

การศึกษาพระคัมภีร์ช่วยคาดเราไว้ในความจริง ช่วยปกป้องคุณธรรมและความบริสุทธิ์ทางเพศ

“เกราะอกแห่งความชอบธรรม” (คพ. 27:16):

  • ตามที่ประธานลีกล่าว เกราะอกป้องกันอะไร

  • ท่านคิดว่าความชอบธรรมของใจเรา (ความประพฤติและความปรารถนาของเรา) มีอิทธิพลต่อความสามารถในการสู้รบทางวิญญาณของเราอย่างไร

“สวมเท้าเจ้าไว้ด้วยการเตรียมพระกิตติคุณแห่งสันติสุข” (คพ. 27:16):

การ “สวม” เท้าของท่านหมายถึงการสวมรองเท้าหรือการป้องกันเท้า

  • ตามที่ประธานลีกล่าว เท้าของเราหมายถึงอะไร

  • ซาตานโจมตีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของเราในชีวิตอย่างไร

  • พระผู้เป็นเจ้าประทานอะไรให้เรา “ยึด” เพื่อช่วยให้เท้าของเราก้าวไปตามเส้นทางชีวิตสู่เป้าหมายของเรา (ดู 1 นีไฟ 8:24)

  • การจดจ่อกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชอบธรรมจะช่วยให้เราเอาชนะการล่อลวงได้อย่างไร

“โล่แห่งศรัทธา” (คพ. 27:17):

  • ท่านคิดว่า “ดับลูกศรเพลิงทั้งหมดของคนชั่วร้าย” หมายความว่าอย่างไร

  • ศรัทธาของท่านเป็นโล่ป้องกันท่านอย่างไร

“หมวกเหล็กแห่งความรอด” (คพ. 27:18):

  • ตามที่ประธานลีกล่าว เราป้องกันอะไรเมื่อเราคลุมศีรษะ

  • เหตุใดการควบคุมความคิดของเราจึงสำคัญ

  • ซาตานโจมตีความคิดของเราอย่างไร

  • อะไรคือสิ่งที่เรากำหนดได้ว่าเราจะทำเพื่อป้องกันความคิดของเรา

“ดาบแห่งพระวิญญาณ” (คพ. 27:18):

  • พระวิญญาณจะทรงช่วยให้เราเอาชนะการโจมตีของซาตานได้อย่างไร

  • การมีพระวิญญาณทำให้เราได้เปรียบอะไรในการต่อสู้กับความชั่วร้าย

  • พระคำของพระผู้เป็นเจ้าช่วยให้เราใช้ดาบแห่งพระวิญญาณอย่างไร

  • ท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่ออัญเชิญพระวิญญาณเข้ามาในชีวิตท่านมากขึ้น

หลังจากนักเรียนรายงานคำตอบของตนแล้ว ให้อ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ขอให้นักเรียนฟังวิธีที่เราสวมและเสริมความแข็งแรงให้ยุทธภัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า

ภาพ
เอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด

“ข้าพเจ้าชอบนึกถึงยุทธภัณฑ์ทางวิญญาณนี้ในแบบที่ไม่ใช่ชิ้นเหล็กแข็งที่ถูกหลอมให้พอดีตัวแต่เป็นเสื้อเกราะที่ทำด้วยโซ่เหล็กร้อยกัน เสื้อเกราะดังกล่าวประกอบด้วยเหล็กชิ้นเล็กจิ๋วหลายร้อยชิ้นผูกเข้าด้วยกันเพื่อให้ผู้ใช้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นโดยไม่สูญเสียการป้องกัน ข้าพเจ้าพูดเช่นนั้นเพราะข้าพเจ้ามีประสบการณ์ว่าเราไม่สามารถติดอาวุธทางวิญญาณให้ตัวเราด้วยสิ่งสำคัญและใหญ่โตสิ่งเดียวได้ พลังทางวิญญาณที่แท้จริงขึ้นอยู่กับการกระทำเล็กน้อยหลายสิ่งหลายอย่างที่ถักทอเข้าด้วยกันเป็นผืนผ้าแห่งปราการทางวิญญาณที่จะปกป้องและคุ้มกันเราจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง” (“Be Strong in the Lord,” Ensign, July 2004, 8)

  • การกระทำเล็กๆ น้อยๆ อะไรบ้างที่จะรวมพลังกันช่วยคุ้มครองเราให้รอดพ้นการล่อลวงและความชั่ว

เชื้อเชิญให้นักเรียนย้อนกลับไปที่บรรทัดต้นๆ ของ หลักคำสอนและพันธสัญญา 27 :15 จากนั้นให้ถามคำถามต่อไปนี้

  • เราควรมีเจตคติเช่นไรขณะสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระผู้เป็นเจ้า (เราควร “รื่นเริงใจและชื่นชมยินดี”) เหตุใดเราจึงควรมีเจตคติเช่นนี้

ขอให้นักเรียนพิจารณาสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในบทเรียนวันนี้ และเชื้อเชิญให้พวกเขาเลือกสิ่งหนึ่งที่ทำได้เพื่อสวมยุทธภัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้าได้ดีขึ้น กระตุ้นให้พวกเขาเขียนสิ่งที่จะทำลงในแผ่นกระดาษเพื่อพวกเขาจะสามารถดูได้บ่อยๆ เป็นเครื่องเตือนใจให้นึกถึงคำมั่นสัญญาของตน

เพื่อสรุปบทเรียนนี้ ขอให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันประจักษ์พยานของพวกเขาเกี่ยวกับความจริงที่สอนในบทเรียน

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:2. “ไม่สำคัญว่าเจ้าจะกินอะไรหรือเจ้าจะดื่มอะไรเมื่อเจ้ารับส่วนศีลระลึก”

ประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธอธิบายว่าเหตุใดจึงได้รับการเปิดเผยใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:2 และมีความหมายว่าอย่างไร

ภาพ
ประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธ

“ผู้ส่งสารจากสวรรค์ [ท่านหนึ่ง] บอกโจเซฟ สมิธว่าไม่สำคัญว่าควรใช้อะไรทำศีลระลึก และท่านต้องไม่ซื้อเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มแรงจากศัตรู เหตุผลสำหรับเรื่องนี้ชัดเจน เพราะท่านศาสดาพยากรณ์มีศัตรูมาก อย่างไรก็ดี เหตุผลนี้เป็นมากกว่าการเพียงป้องกันศัตรูของท่าน เพราะนั่นคือการเตือนให้ระวังคนคิดแผนชั่วผู้จะปลอมปนสิ่งเหล่านี้ (ดู พระคำแห่งปัญญา, ภาค 89) ท่านบอกโจเซฟ สมิธว่าไม่ควรใช้เหล้าองุ่นประกอบพิธีศีลระลึกเว้นแต่วิสุทธิชนจะทำขึ้นเอง และควรเป็นเหล้าองุ่นใหม่ แม้ในช่วงแรกนั้นศาสนจักรยังไม่มีธรรมเนียมของการใช้น้ำแต่อย่างเดียวในศีลระลึก แต่ศาสนจักรใช้น้ำแทนเหล้าองุ่นนับจากครั้งนี้ ซึ่งแต่ก่อนใช้เหล้าองุ่นเป็นหลักเพราะคล้ายเลือด ปัจจุบันทั่วทั้งศาสนจักรใช้น้ำในศีลระลึกเพื่อระลึกถึงพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ซึ่งหลั่งเพื่อการปลดบาปให้ทุกคนที่กลับใจและยอมรับพระกิตติคุณ” (Church History and Modern Revelation, 2 vols. [1953], 1:132; see also Doctrine and Covenants Student Manual, 2nd ed. [Church Educational System manual, 2001], 55)

หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:2 “ดวงตาที่เห็นแก่รัศมีภาพของเราอย่างเดียว”

เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่าเราจะมีดวงตาที่เห็นแก่รัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเดียวได้อย่างไร

ภาพ
เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

“ลองนึกภาพกล้องส่องทางไกลที่มีสมรรถภาพสูงคู่หนึ่ง ระบบการมองเห็นที่แยกจากกันสองระบบรวมเข้าด้วยกันด้วยอุปกรณ์ที่โฟกัสภาพสะท้อนสองภาพให้เป็นภาพสามมิติหนึ่งภาพ เพื่อใช้การเปรียบเทียบนี้ ขอให้ภาพด้านซ้ายของกล้องส่องทางไกลแทน การรับรู้ ภารกิจของท่าน ให้ภาพด้านขวาแทน มุมมองของพระเจ้า เกี่ยวกับภารกิจของท่าน—ส่วนหนึ่งของแผนซึ่งพระองค์ทรงมอบให้ท่าน ตอนนี้ ให้เชื่อมระบบของท่านกับพระองค์ ปรับโฟกัสด้านจิตใจของท่านให้เข้ากับพระองค์ สิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้น ตอนนี้ภาพที่ท่านเห็นเหมือนกับภาพที่พระองค์ทรงเห็น แสดงว่าท่านได้พัฒนา ‘ดวงตาที่เห็นแก่รัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเดียว’ (คพ. 4:5; ดู มอรมอน 8:15ด้วย)” (“With God Nothing Shall Be Impossible,” Ensign, May 1988, 34)