เซมินารี
บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน: หลักคำสอนและพันธสัญญา 49–56 (หน่วย 12)


บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 49–56 (หน่วย 12)

เนื้อหาเตรียมสอนสำหรับครูภาคการศึกษาที่บ้าน

บทสรุปของบทเรียนภาคการศึกษาที่บ้านประจำวัน

บทสรุปต่อไปนี้ของเหตุการณ์ หลักคำสอน และหลักธรรมที่นักเรียนเรียนรู้ขณะศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 49–56 (หน่วย 12) ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้สอนในบทเรียนของท่าน บทเรียนที่ท่านสอนเน้นเฉพาะหลักคำสอนและหลักธรรมเหล่านี้เพียงไม่กี่ข้อ จงทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขณะพิจารณาความต้องการของนักเรียน

วันที่ 1 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 49)

นักเรียนศึกษาหลักคำสอนและหลักธรรมที่ว่าพระเจ้าทรงบัญชาลีมัน คอพลีย์และคนอื่นๆ ให้สอนนิกายเชเคอร์ส; หากเรารู้เครื่องหมายของการเสด็จมาครั้งที่สอง เราจะไม่ถูกคำอ้างเท็จหลอก; พระเยซูทรงบัญชาผู้รับใช้ของพระองค์ให้เรียกหาผู้คนในเชื่อในพระองค์ รับบัพติศมา และรับของประทานแห่งวิญญาณบริสุทธิ์; การแต่งงานระหว่างชายหญิงได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า และว่าสามีภรรยาได้รับบัญชาให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและมีบุตร

วันที่ 2 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 50)

นักเรียนเรียนรู้ว่าวิญญาณเท็จหลอกวิสุทธิชนยุคแรกบางคน พระเจ้าทรงสอนว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพระผู้ปลอบโยนและพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสอนความจริง พระเจ้าทรงสอนเช่นกันว่าสิ่งซึ่งมาจากพระผู้เป็นเจ้าเป็นความสว่างและจรรโลงใจ แต่สิ่งที่ไม่ได้มาจากพระผู้เป็นเจ้าทำให้เกิดความสับสนและความมืด นักเรียนค้นพบว่าเมื่อเราสอนและเรียนรู้โดยพระวิญญาณ เราเข้าใจกันและเราได้รับการจรรโลงใจและชื่นชมยินดีด้วยกัน

วันที่ 3 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 51–52)

นักเรียนเรียนรู้ว่าเพื่อไม่ให้ซาตานหลอก เราต้องเชื่อฟังคำแนะนำของพระเจ้าและดำเนินชีวิตตามการเปิดเผยที่พระองค์ประทาน อีกทั้งเรียนรู้ว่าสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์มองหาและดูแลคนจน คนขัดสน คนเจ็บป่วย และคนทุกข์ยาก

วันที่ 4 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 53–56)

ขณะศึกษาเรื่องวิสุทธิชนถูกบีบให้ออกจากที่ดินของลีมัน คอพลีย์ นักเรียนเรียนรู้ว่าหากเรารักษาพันธสัญญาของเราและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้า เราจะได้ความเมตตา ขณะที่นักเรียนศึกษาบริบทของการเรียกวิลเลียม ดับเบิลยู. เฟลพ์สให้เขียนและพิมพ์ให้ศาสนจักร พวกเขาเรียนรู้ว่าพระเจ้าจะทรงใช้พรสวรรค์ ทักษะ และความสามารถของเราเป็นพรแก่อาณาจักร ขณะที่นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับเอซรา เธเยอร์ พวกเขาค้นพบว่าพระเจ้าจะประทานพระบัญญัติหรือยกเลิกพระบัญญัติได้ตามที่พระองค์ทรงเห็นสมควร

คำนำ

ในเดือนมิถุนายน ปี 1831 พระเจ้าประทานการเปิดเผยหลายครั้งโดยทรงเรียกวิสุทธิชนในโอไฮโอให้เดินทางไปมิสซูรี บทนี้เน้นความสัมพันธ์ระหว่างการเชื่อฟังกับการได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมจากพระเจ้า อีกทั้งพูดถึงความหมายของการ “แบกกางเขน [ของเรา] ” ด้วย (ดู คพ. 56:2)

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 52:1–13, 22–36

พระเจ้าทรงบัญชาท่านศาสดาพยากรณ์และเอ็ลเดอร์คนอื่นๆ ให้เดินทางไปมิสซูรีและสั่งสอนพระกิตติคุณระหว่างการเดินทาง

ก่อนชั้นเรียนให้เตรียมคำใบ้สามคำ แต่ละคำนำไปสู่คำใบ้ถัดไป ตัวอย่างเช่น คำใบ้แรกอาจนำนักเรียนให้หาคำใบ้ที่สองซึ่งอยู่ใต้หรือในของชิ้นหนึ่งในห้องเรียน คำใบ้ที่สองอาจนำพวกเขาให้ค้นหาคำใบ้ที่สามซึ่งอยู่ที่ใดที่หนึ่งในห้องเรียน คำใบ้ที่สามควรบอกว่า “อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 52:1–6 หาหลักธรรมที่คล้ายกับกิจกรรมนี้”

ติดคำใบ้แรกไว้บนกระดาน และเขียนคำแนะนำต่อไปนี้ไว้ข้างๆ: ทำตามคำใบ้นี้เพื่อรู้วิธีรับการนำทางอย่างต่อเนื่องจากพระเจ้า

หลังจากนักเรียนอ่านคำใบ้แรก ให้พวกเขาทำตามคำแนะนำเพื่อหาคำใบ้ที่สอง จากนั้นให้พวกเขาอ่านคำแนะนำในคำใบ้ที่สองและค้นหาคำใบ้ที่สาม

ก่อนนักเรียนทำตามคำใบ้ที่สาม ให้อธิบายว่าข้อความที่พวกเขาจะค้นหามีคำแนะนำที่ประทานแก่โจเซฟ สมิธและผู้นำฐานะปุโรหิตคนอื่นๆ ที่การประชุมใหญ่ของศาสนจักรในเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอ เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1831 เตือนความจำนักเรียนว่าพระเจ้าทรงเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าวิสุทธิชนจะสถาปนาเมืองหนึ่งเรียกว่า ไซอัน (ดู คพ. 28:9) แต่พระองค์ยังไม่ทรงเปิดเผยที่ตั้งเมืองนี้

เชื้อเชิญให้นักเรียนทำตามคำแนะนำในคำใบ้ที่สาม ขอให้นักเรียนสองสามคนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก หลักคำสอนและพันธสัญญา 52:1–6 เชื้อเชิญให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาหลักธรรมคล้ายกับกิจกรรมที่เพิ่งทำเสร็จ

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 4–5เกิดอะไรได้บ้างเมื่อเราซื่อสัตย์ต่อคำแนะนำของพระผู้เป็นเจ้า (เมื่อเราทำตามคำแนะนำของพระผู้เป็นเจ้าอย่างซื่อสัตย์ พระองค์ทรงเปิดเผยพระประสงค์ของพระองค์ต่อเรามากขึ้น เขียนหลักธรรมนี้ไว้บนกระดาน ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนเขียนไว้ตรงช่องว่างริมหน้าพระคัมภีร์ของพวกเขาด้วย)

  • กิจกรรมคล้ายกับหลักธรรมนี้อย่างไร (เมื่อนักเรียนทำตามคำแนะนำแต่ละข้อ พวกเขาได้รับการนำทางเพิ่มเติมซึ่งสุดท้ายนำไปพบคำตอบที่พวกเขาแสวงหา)

  • ท่านรู้สึกว่าการได้รับการนำทางจากพระเจ้าและความจริงทีละน้อยแทนที่จะได้รับทั้งหมดในคราวเดียวมีประโยชน์อะไรบ้าง

หลักคำสอนและพันธสัญญา 53

พระเจ้าทรงเรียกซิดนีย์ กิลเบิร์ตเป็นเอ็ลเดอร์และให้เดินทางไปมิสซูรีกับโจเซฟ สมิธ

ตามตัวอย่างความจริงที่ระบุไว้ข้างต้น ให้อธิบายว่าผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่ชื่อซิดนีย์ กิลเบิร์ตพบว่าเขาไม่อยู่ในรายชื่อผู้สอนศาสนาที่ได้รับเรียกให้ไปมิสซูรี เขาไปพบศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและถามว่าพระเจ้าทรงประสงค์ให้เขาทำอะไร ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธทูลถามและได้รับการเปิดเผยที่บันทึกไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 53 การเปิดเผยแนะนำบราเดอร์กิลเบิร์ตให้ละทิ้งโลก รับการวางมือแต่งตั้งเป็นเอ็ลเดอร์ และเดินทางไปมิสซูรีเพื่อช่วยทำธุรกรรมทางธุรกิจของศาสนจักร (ดู คพ. 53:1–5)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 53:6–7 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาเวลาที่พระเจ้าตรัสว่าจะประทานคำแนะนำที่เหลือแก่ซิดนีย์ (ท่านอาจจะต้องอธิบายว่าพระเจ้าทรงเรียกคำแนะนำเหล่านี้ว่า “ศาสนพิธี” คำว่า ศาสนพิธี บางครั้งหมายถึงกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับ)

  • ท่านคิดว่าเหตุใดเราจึงต้องเชื่อฟังคำแนะนำที่พระเจ้าประทานแก่เราก่อนเราคาดว่าจะได้รับมากขึ้น

เชื้อเชิญให้นักเรียนที่เคยมีประสบการณ์กับหลักธรรมนี้แบ่งปันประสบการณ์หรือเป็นพยานถึงความจริงของหลักธรรม ท่านอาจจะต้องแบ่งปันประสบการณ์หรือประจักษ์พยานของท่านเช่นกัน

กระตุ้นให้นักเรียนจดคำถาม ข้อกังวล หรือการตัดสินใจที่พวกเขากำลังประสบซึ่งพวกเขาต้องการความช่วยเหลือและการนำทางจากพระเจ้า จากนั้นให้พวกเขาไตร่ตรองและจดการนำทางที่พระเจ้าประทานแก่พวกเขาที่พวกเขาจะเอาใจใส่อย่างเต็มที่มากขึ้นเพื่อให้ได้รับการนำทางจากพระองค์เพิ่มเติม

หลักคำสอนและพันธสัญญา 56:1–8

พระเจ้าทรงยกเลิกการเรียกเอซรา เธเยอร์ไปเป็นผู้สอนศาสนาและเตือนให้เขากลับใจ

ถามนักเรียนว่าพวกเขารู้จักคนที่สละสิ่งสำคัญบางอย่างเพื่อเชื่อฟังพระบัญญัติข้อหนึ่งของพระเจ้าหรือไม่ (ตัวอย่างอาจได้แก่ คนบางคนเสียสละเพื่อเข้าร่วมศาสนจักร ไปเป็นผู้สอนศาสนา หรือเชื่อฟังมาตรฐานบางข้อของศาสนจักร) เชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันตัวอย่างของพวกเขา จากนั้นให้นักเรียนสรุปสิ่งที่เรียนรู้เกี่ยวกับเอซรา เธเยอร์ขณะพวกเขาศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 56 (หากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ให้เตือนพวกเขาว่าเอซรา เธเยอร์ได้รับบัญชาให้รับใช้งานเผยแผ่กับโธมัส บี. มาร์ช แต่เพราะความจองหองและความกังวลแต่เรื่องของตนเอง เขาจึงไม่พร้อมไปเมื่อถึงเวลา)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 56:1–2 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาว่าพระเจ้าตรัสอะไรเกี่ยวกับคนที่ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์

  • พระเจ้าตรัสอะไรเกี่ยวกับคนที่ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 2เราต้องทำอะไรจึงจะได้รับการช่วยให้รอด (เพื่อรับการช่วยให้รอด เราต้องแบกกางเขนของเรา ติดตามพระผู้ช่วยให้รอด และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ เขียนความจริงนี้ไว้บนกระดาน)

  • ท่านคิดว่า “แบกกางเขน [ของเรา] ” หมายความว่าอย่างไร (งานแปลของโจเซฟ สมิธสำหรับมัทธิว 16:24 นิยามวลีดังกล่าวทำนองนี้ “และบัดนี้การให้มนุษย์ยกกางเขนของตนมาแบกไว้, คือการปฏิเสธตนเองจากความอาธรรม์ทั้งปวง, และตัณหาราคะทุกอย่างทางโลก, และรักษาบัญญัติของเรา” [มัทธิว 16:24, เชิงอรรถ eในภาษาอังกฤษ] การกล่าวถึงกางเขนคือการเตือนให้นึกถึงความตั้งพระทัยแน่วแน่ของพระผู้ช่วยให้รอดว่าจะทำตามพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์ของพระองค์ เราแบกกางเขนของเราโดยแสดงให้เห็นว่าเราเต็มใจรักษาพระบัญญัติของพระเจ้าและ “ปฏิเสธตนเอง” หรือเสียสละอะไรก็ตามที่จำเป็นต่อการเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า)

  • พระเจ้าประทานพระบัญญัติอะไรที่เรียกร้องให้ท่านแบกกางเขนของท่านและเสียสละเพื่อเชื่อฟัง (ตัวอย่างบางเรื่องอยู่ใน เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน)

อ่านตัวอย่างต่อไปนี้ (หรือคิดตัวอย่างที่ประยุกต์ใช้กับนักเรียนในชั้นของท่านได้มากกว่า) และถามว่าแต่ละคนแบกกางเขนของพวกเขาและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้าอย่างไร

  1. เยาวชนชายคนหนึ่งใกล้ถึงอายุที่เขาจะรับใช้งานเผยแผ่ได้ เขาเป็นห่วงทุกอย่างที่เขาจะต้องทิ้งไว้เบื้องหลังเมื่อเขารับใช้

  2. เยาวชนหญิงคนหนึ่งรู้ว่าเยาวชนในวอร์ดของเธอจะไปพระวิหารอีกสองสามเดือนข้างหน้า แต่เธอไม่มีใบรับรองพระวิหาร มีบางอย่างในชีวิตเธอตอนนี้ที่จะขัดขวางไม่ให้เธอได้ใบรับรอง

อธิบายว่าถ้าเราเลือกไม่แบกกางเขนของเรา เราอาจเสียโอกาสเป็นพรแก่ผู้อื่นและรับพรของเราเอง

สรุป หลักคำสอนและพันธสัญญา 56:3–8 โดยเตือนความจำนักเรียนว่าเพราะเอซรา เธเยอร์ไม่เชื่อฟัง การเรียกให้รับใช้งานเผยแผ่ของเขาจึงถูกยกเลิกและเสียโอกาสรับใช้ในเวลานั้น เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องทำเพื่อแบกกางเขนของตนและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้า กระตุ้นให้พวกเขาทำตามการกระตุ้นเตือนทุกครั้งที่ได้รับ

หน่วยถัดไป (หลักคำสอนและพันธสัญญา 57–59)

ถามนักเรียนว่าจะเป็นอย่างไรหากอยู่ในชุมชนที่ทุกคนชอบธรรม มีน้ำใจ และมีจิตกุศล ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 59 เราเรียนรู้วิธีที่เราควรดำเนินชีวิตเพื่อให้มีคุณสมบัติคู่ควรรับพรของพระวิหารและเตรียมอยู่ในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า