เซมินารี
บทที่ 158: การเร่งงานแห่งความรอด


บทที่ 158

การเร่งงานแห่งความรอด

คำนำ

ตั้งแต่เริ่มการฟื้นฟู งานของพระเจ้าขยายออกไปทั่วโลก เรามีชีวิตอยู่ในเวลาที่พระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์ เยาวชนของศาสนจักรมีแหล่งช่วยและโอกาสมากมายให้เอื้อประโยชน์ต่อการเร่งงานของพระเจ้า

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

พระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์

เชิญนักเรียนคนหนึ่งเดินจากด้านหนึ่งของห้องไปอีกด้านหนึ่งด้วยความเร็วปกติ จากนั้นขอให้นักเรียนเดินอีกรอบและเร่งฝีเท้า ขณะนักเรียนคนนั้นกำลังเดินรอบสอง ให้ถามชั้นเรียนดังนี้

  • เร่งทำบางอย่างหมายความว่าอย่างไร (ทำให้เร็วขึ้น) บางคนอาจจะมีเหตุผลอะไรให้เร่งงานหรือทำงานให้เร็วขึ้น

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:73 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาสิ่งที่พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงเร่ง ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ

  • ท่านคิดว่าพระเจ้าทรงเร่งงานของพระองค์หมายความว่าอย่างไร

เมื่ออ้าง หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:73 เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “เวลาเร่งคือเดี๋ยวนี้” (“Thus Shall My Church Be Called,” Ensign, May 1990, 17) เขียนหลักคำสอนต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: เรามีชีวิตอยู่ในเวลาที่พระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์

  • ท่านเคยเห็นพระเจ้าทรงเร่งงานของพระองค์ในด้านใดบ้าง

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 133:10 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาว่าข้อนี้บอกอะไรเกี่ยวกับสาเหตุที่พระเจ้าจะทรงเร่งงานของพระองค์

  • ข้อนี้บอกอะไรเกี่ยวกับสาเหตุที่พระเจ้าจะทรงเร่งงานของพระองค์ (เพื่อช่วยผู้คนเตรียมรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์

ให้ดูรูป ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (หนังสือภาพพระกิตติคุณ [2009], ภาพที่ 133; ดู LDS.org ด้วย) อธิบายว่าในช่วงที่ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์รับใช้เป็นประธานศาสนจักร พระเจ้าทรงเร่งงานของพระองค์ ตัวอย่างเช่น งานเผยแผ่ศาสนาขยายวงกว้าง และศาสนจักรจัดพิมพ์พระคัมภีร์ฉบับใหม่ เมื่อประธานคิมบัลล์กระตุ้นให้สมาชิกศาสนจักรรุดหน้า ท่านกล่าวว่าศาสนจักร “หยุดนิ่งมานานพอแล้ว” (“Let Us Move Forward and Upward,” Ensign, May 1979, 82) ท่านสอนด้วยว่า “เราต้องก้าวให้ยาวขึ้นและเราต้องทำเดี๋ยวนี้” (“Always a Convert Church: Some Lessons to Learn and Apply This Year,” Ensign, Sept. 1975, 3)

ภาพ
ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์
  • ท่านคิดว่าประธานคิมบัลล์หมายถึงอะไรเมื่อท่านกล่าวว่าเราต้อง “ก้าวให้ยาวขึ้น”

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจบางวิธีที่พระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์ในปัจจุบันและบางวิธีที่พวกเขาจะมีส่วนในงานของพระองค์ได้ ให้ดำเนินกิจกรรมต่อไปนี้

แบ่งชั้นเรียนออกเป็นสามกลุ่ม และแจก สำเนางานมอบหมายการสอนต่อไปนี้ให้กลุ่มละแผ่น ให้เวลานักเรียนสองสามนาทีศึกษาและเตรียมสอนงานมอบหมายของตนให้แก่เพื่อนร่วมชั้น หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ให้จัดนักเรียนเป็นสามกลุ่ม โดยมีนักเรียนจากกลุ่มเดิมกลุ่มละคน ให้พวกเขาผลัดกันสอนกลุ่มของตนว่าพระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์อย่างไรและพวกเขาจะมีส่วนในงานนั้นได้อย่างไร

งานมอบหมายการสอน 1: การเร่งงานเผยแผ่ศาสนา

ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์บอกวิสุทธิชนว่าพระเจ้าทรงพร้อมเปิดประตูให้พวกเขาแบ่งปันพระกิตติคุณ รวมทั้งประเทศที่ไม่ยอมให้ทำงานเผยแผ่ศาสนา อย่างไรก็ดี ท่านกล่าวด้วยว่าวิสุทธิชนต้องเตรียมตนเองให้พร้อมรับโอกาสเหล่านั้น ประธานคิมบัลล์เป็นพยานเช่นกันว่าหากเยาวชนชายทุกคนเตรียมรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลา พระเจ้าจะทรงเปิดประตูและจัดหาวิธีให้งานเผยแผ่ศาสนาออกไปทั่วโลก ท่านประกาศว่า

ภาพ
ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

“ข้าพเจ้ารู้ว่าประเทศเหล่านั้นมีม่าน เช่นม่านเหล็กและม่านไม้ไผ่ ข้าพเจ้ารู้ว่ายากมากเพราะเราพยายามมาบ้างแล้ว … แต่ข้าพเจ้าเห็นได้ว่าไม่มีเหตุผลใดที่พระเจ้าจะทรงเปิดหากเราไม่พร้อมเข้าไป เหตุใดเราจึงควรทำลายม่านเหล็กหรือม่านไม้ไผ่หรือม่านใดก็ตามหากเรายังไม่พร้อมเข้าไป” (“When the World Will Be Converted,” Ensign, Oct. 1974, 5, 7)

สมาชิกของศาสนจักรทำตามคำแนะนำของประธานคิมบัลล์และเตรียมแบ่งปันพระกิตติคุณ ในช่วงประธานคิมบัลล์บริหารงาน จำนวนผู้สอนศาสนาเต็มเวลาเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 รัฐบาลของเยอรมนีตะวันออกประเทศที่อยู่ภายในสภาพโซเวียตเดิม และอีกหลายประเทศที่แต่ก่อนจำกัดงานเผยแผ่ศาสนาได้เริ่มอนุญาตให้ผู้สอนศาสนาแบ่งปันพระกิตติคุณในประเทศเหล่านี้ คำพยากรณ์ของประธานคิมบัลล์เกิดสัมฤทธิผล

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2008 ประธานโธมัส เอส. มอนสันย้ำคำแนะนำที่ประธานคิมบัลล์ให้ไว้

ภาพ
ประธานโธมัส เอส. มอนสัน

“ยังมี … หลายเขตของโลกที่อิทธิพลของเราถูกจำกัดและไม่ได้รับอนุญาตให้แบ่งปันพระกิตติคุณอย่างเสรี ตามที่ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ขอร้องเมื่อ 32 ปีก่อน ข้าพเจ้าขอให้ท่านสวดอ้อนวอนเพื่อการเปิดเขตเหล่านั้น เพื่อเราจะได้แบ่งปันปีติของพระกิตติคุณกับพวกเขา เมื่อเราสวดอ้อนวอนตามคำขอร้องของประธานคิมบัลล์ในเวลานั้น เราเห็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้นขณะที่หลายต่อหลายประเทศเปิดรับศาสนจักรซึ่งเดิมทีไม่ยอมรับ เรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเราสวดอ้อนวอนด้วยศรัทธา (“ขอต้อนรับสู่การประชุมใหญ่,” เลียโฮนา, พ.ย. 2008, 7)

ชี้ให้เห็นว่าเมื่อประธานคิมบัลล์กระตุ้นให้สมาชิกศาสนจักรก้าวยาวขึ้น ท่านชี้แจงความรับผิดชอบของเยาวชนชายทุกคนในศาสนจักร เชิญสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มของท่านอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้

ภาพ
ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

“คำถามที่พบบ่อยคือ ชายหนุ่มทุกคนควรเป็นผู้สอนศาสนาหรือไม่ และพระเจ้าประทานคำตอบ คำตอบคือ ‘ใช่’ ชายหนุ่มทุกคนควรเป็นผู้สอนศาสนา” (“When the World Will Be Converted,” 8)

เตือนความจำสมาชิกกลุ่มของท่านว่าศาสดาพยากรณ์ยังคงกระตุ้นชายหนุ่มที่สามารถและมีค่าควรทุกคนให้รับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลา ศาสดาพยากรณ์ต้อนรับหญิงสาวให้รับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลาเช่นกันหากพวกเธอปรารถนาจะทำเช่นนั้น ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012 ประธานโธมัส เอส. มอนสันประกาศเปลี่ยนข้อกำหนดเรื่องอายุผู้สอนศาสนาโดยอนุญาตให้ชายหนุ่มเริ่มรับใช้เมื่ออายุ 18 ปีและหญิงสาวเมื่ออายุ 19 ปี

สนทนาคำถามต่อไปนี้เป็นกลุ่ม

  • ตามคำกล่าวของศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้าย พระเจ้าทรงคาดหวังอะไรจากชายหนุ่มเกี่ยวกับงานเผยแผ่ศาสนาเต็มเวลา (ถึงแม้สมาชิกกลุ่มจะใช้คำพูดต่างกัน แต่คำตอบควรสะท้อนหลักธรรมต่อไปนี้: ชายหนุ่มทุกคนควรเตรียมตัวรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลาและรักษาตนให้มีค่าควรแก่การรับใช้)

  • เหตุใดชายหนุ่มทุกคนจึงควรเตรียมตัวรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลา

  • การเตรียมเป็นผู้สอนศาสนาเดี๋ยวนี้จะช่วยให้ท่านเอื้อประโยชน์ต่องานของพระเจ้าได้อย่างไร

  • ท่านคิดว่าการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับการดลใจในข้อกำหนดเรื่องอายุสำหรับผู้สอนศาสนาเต็มเวลาเอื้อประโยชน์ต่อการเร่งงานของพระเจ้าอย่างไร

งานมอบหมายการสอน 2: พระคัมภีร์ฉบับพิมพ์ใหม่

ขอให้สมาชิกในกลุ่มของท่านพิจารณาว่าพวกเขาจะทำอะไรหากเพื่อนสนิทคนหนึ่งถามพวกเขาว่า “ฉันอยากเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น ฉันควรทำอะไร” จากนั้นให้ถามคำถามต่อไปนี้

  • ท่านจะพูดอะไรกับเพื่อนของท่าน

อ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

ภาพ
ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

“ข้าพเจ้าพบว่าเมื่อข้าพเจ้ามีความสัมพันธ์เพียงผิวเผินกับพระผู้เป็นเจ้าและเมื่อดูเหมือนว่าไม่มีพระกรรณคอยสดับฟังและไม่มีสุรเสียงรับสั่ง ข้าพเจ้ากำลังห่างไกลออกไปทุกที ถ้าข้าพเจ้าใฝ่ใจศึกษาพระคัมภีร์ระยะทางจะแคบเข้าและความเข้มแข็งทางวิญญาณจะกลับคืนมา” (The Teachings of Spencer W. Kimball, ed. Edward L. Kimball [1982], 135)

บอกสมาชิกในกลุ่มของท่านว่าคำกล่าวของประธานคิมบัลล์อธิบายความจำเป็นเร่งด่วนให้เราต้องเข้าถึงพระคัมภีร์ เชิญสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มของท่านอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 104:58–59 ขอให้กลุ่มดูตามและระบุว่าเหตุใดพระเจ้าทรงต้องการให้ผู้นำศาสนจักรจัดพิมพ์การเปิดเผย

  • การศึกษาพระคัมภีร์สามารถช่วยให้เราก้าวยาวขึ้นและเอื้อประโยชน์ต่อการเร่งงานของพระเจ้าอย่างไร

อธิบายว่าต้นทศวรรษ 1970 ผู้นำศาสนจักรทราบดีว่าสมาชิกศาสนจักรต้องรอบรู้พระคัมภีร์มากขึ้นและมีพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับมาตรฐานไว้ศึกษาและสอน คริสต์ศักราช 1979 หลังจากเพียรพยายามด้วยการดลใจอยู่หลายปี ศาสนจักรพิมพ์พระคัมภีร์ไบเบิลคิงเจมส์ฉบับแอลดีเอสอย่างเป็นทางการในภาษาอังกฤษ พระคัมภีร์ไบเบิลฉบับนี้มีสื่อการศึกษาเพิ่มเติมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมทั้งขยายเชิงอรรถที่มีพระคัมภีร์อ้างโยงและสื่อการศึกษาอื่น ปรับปรุงหัวบท ข้อความที่คัดลอกมาจากงานแปลของโจเซฟ สมิธ Topical Guide และ Bible Dictionary คริสต์ศักราช 1981 ศาสนจักรจัดพิมพ์พระคัมภีร์ฉบับรวมสามเล่มเป็นภาษาอังกฤษขึ้นมาใหม่ ประกอบด้วยเชิงอรรถที่ดีกว่าเดิม หัวบท แผนที่ และดรรชนี คริสต์ศักราช 2009 ศาสนจักรจัดพิมพ์พระคัมภีร์ไบเบิล Reina-Valera ฉบับแอลดีเอสในภาษาสเปน

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองหลังจากออกพระคัมภีร์ฉบับรวมสามเล่มปี 1981 เป็นภาษาอังกฤษได้หนึ่งปี ขอให้นักเรียนฟังว่าประธานแพคเกอร์หลับตาเห็นพระคัมภีร์ฉบับพิมพ์ใหม่เหล่านี้เป็นพรแก่ชีวิตและทำให้งานของพระผู้เป็นเจ้ารุดหน้าอย่างไร

ภาพ
ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์

“หลายปีผ่านไป พระคัมภีร์เหล่านี้จะผลิตชาวคริสต์ที่ซื่อสัตย์หลายรุ่นติดต่อกันผู้รู้จักพระเจ้าพระเยซูคริสต์และมีแนวโน้มจะเชื่อฟังพระประสงค์ของพระองค์

“… พวกเขาจะพัฒนาความรอบรู้ในพระกิตติคุณเกินกว่าบรรพชนของพวกเขาจะทำได้ พวกเขาจะมีประจักษ์พยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์และมีความสามารถในการประกาศพระองค์และแก้ต่างให้พระองค์” (“Scriptures,” Ensign, Nov. 1982, 53)

แบ่งปันประจักษ์พยานของท่านว่า พระคัมภีร์เป็นพยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์ การศึกษาพระคัมภีร์จะช่วยให้เราได้รับประจักษ์พยานในพระเยซูคริสต์และช่วยทำให้ชีวิตเราเปี่ยมด้วยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์

อธิบายว่าศาสนจักรพยายามมากอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สมาชิกศาสนจักรมีพระคัมภีร์และสื่อการศึกษาที่เป็นประโยชน์ในภาษาของพวกเขา

สนทนาคำถามต่อไปนี้เป็นกลุ่ม

  • เหตุใดการศึกษาพระคัมภีร์ทุกวันจึงสำคัญ

  • การศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัวได้ช่วยให้ท่านช่วยเหลืองานของพระเจ้าอย่างไร

งานมอบหมายการสอน 3: การเร่งงานพระวิหารและประวัติครอบครัว

ขอให้กลุ่มของท่านทายว่าศาสนจักรสร้างพระวิหารกี่แห่งใน 143 ปีระหว่างการจัดตั้งศาสนจักรในปี 1830 กับการเรียกของประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ในปี 1973 (17 แห่ง) จากนั้นขอให้กลุ่มทายว่าศาสนจักรประกาศและสร้างพระวิหารกี่แห่งใน 40 ปีระหว่างปี 1973 ถึงปี 2013 (153 แห่ง)

อธิบายว่าการก่อสร้างพระวิหารเพิ่มขึ้นมากที่สุดภายใต้การกำกับดูแลของประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ เชิญนักเรียนบางคนในกลุ่มของท่านอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานฮิงค์ลีย์

ภาพ
ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

“ข้าพเจ้ามีความปรารถนาแรงกล้าอยากให้พระวิหารตั้งอยู่ในเขตที่วิสุทธิชนยุคสุดท้ายทั่วโลกไปได้ไม่ยาก … งานกำลังคืบหน้าเร็วเท่าที่เราจะทำได้ ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนมาตลอดขอให้สร้างได้เร็วขึ้นทั้งนี้เพื่อคนของเราจะเข้าพระนิเวศน์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าได้มากขึ้น” (“Of Missions, Temples, and Stewardship,” Ensign, Nov. 1995, 52, 53)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 128:15, 17 ขอให้กลุ่มดูตามโดยมองหาความรับผิดชอบที่เรามีต่อบรรพชนของเรา จากนั้นให้อ่านออกเสียงถ้อยแถลงหลักคำสอนต่อไปนี้จากเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง: “เรามีความรับผิดชอบตามพันธสัญญาในการค้นหาบรรพชนของเราและทำศาสนพิธีแห่งความรอดของพระกิตติคุณให้ท่านเหล่านั้น” (“ใจของลูกหลานจะหันไป,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 32)

ชี้ให้เห็นว่าการก่อสร้างพระวิหารและความคืบหน้าของงานประวัติครอบครัวเป็นหลักฐานยืนยันว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์ทั้งสองด้านของม่าน เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เบดนาร์ ขอให้กลุ่มฟังว่าพวกเขาจะเอื้อประโยชน์ต่องานของพระเจ้าได้อย่างไร

ภาพ
เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

“ไม่ใช่เหตุบังเอิญที่ FamilySearch และเครื่องมืออื่นๆ ออกมาในเวลาที่เยาวชนคุ้นเคยกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหลากหลายรูปแบบ นิ้วของท่านผ่านการฝึกฝนให้ส่งข้อความและทวีตเพื่อเร่งให้งานของพระเจ้ารุดหน้า—มิใช่เพียงเพื่อใช้สื่อสารกับเพื่อนๆ ได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น ทักษะความสามารถที่มีอยู่ในบรรดาเยาวชนทุกวันนี้เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเอื้อประโยชน์ต่องานแห่งความรอด” (ดู “ใจของลูกหลานจะหันไป,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 32)

สนทนาคำถามต่อไปนี้กับกลุ่มของท่าน

  • ท่านเคยมีประสบการณ์ดีๆ อะไรบ้างในการทำงานประวัติครอบครัวหรือไปพระวิหารเพื่อมีส่วนร่วมในศาสนพิธีสำหรับผู้วายชนม์

ความรับผิดชอบของเราในการทำให้งานรุดหน้า

หลังจากนักเรียนสอนในกลุ่มเล็กเสร็จแล้ว ให้เชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันความคิดและความรู้สึกของพวกเขาเกี่ยวกับการเร่งงานของพระเจ้า

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เดวิด บี. เฮจท์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ขอให้ชั้นเรียนฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเรามีส่วนในงานของพระเจ้า

ภาพ
เอ็ลเดอร์เดวิด บี. เฮจท์

“พี่น้องทั้งหลาย พระเจ้าทรงกำลังเปิดทางและทรงทำให้งานของพระองค์ขยายไปทั่วโลก และนับเป็นพรอย่างยิ่งที่เราทุกคนได้มีส่วน—แต่ละคนในวิธีของพระองค์เอง …

“นอกจากศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าแล้วใครเห็นปาฏิหาริย์ของการเร่งขยายงานของพระเจ้าล่วงหน้าบ้าง โดยแท้แล้ว ตามที่พระเจ้ารับสั่งไว้ล่วงหน้าในหลักคำสอนและพันธสัญญาภาค 88 พระองค์ทรงกำลังเร่งงานของพระองค์ในเวลาของมัน (ดู คพ. 88:73)” (“Missionary Work—Our Responsibility,” Ensign, Nov. 1993, 61, 62)

  • ตามที่เอ็ลเดอร์เฮจท์กล่าว จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเรามีส่วนในงานของพระเจ้า (ขณะที่นักเรียนตอบ ให้เขียนความจริงต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: เราได้รับพรจากการมีส่วนเร่งงานของพระเจ้า)

  • ท่านเคยประสบพรอะไรบ้างเมื่อท่านมีส่วนในการเร่งงานของพระเจ้า

เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาโอกาสที่พวกเขาเอื้อประโยชน์ต่อการเร่งงานของพระเจ้า ขอให้พวกเขาตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขา

  • ท่านจะเอื้อประโยชน์ต่อการเร่งงานของพระเจ้าในวิธีใดบ้าง

หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญให้นักเรียนตั้งเป้าหมายติดตามสิ่งที่เขียนไว้ สรุปโดยเป็นพยานถึงการเร่งงานของพระเจ้าตลอดจนความรับผิดชอบและโอกาสของเราที่จะมีส่วนในงานของพระองค์

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

“เราต้องก้าวให้ยาวขึ้น”

ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์สอนว่า

ภาพ
ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

“เรามีบางอย่างต้องแบ่งปันหรือไม่ มี! เรามีพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ พระกิตติคุณแห่งสันติสุข พระกิตติคุณแห่งปีติ เรามีความจริงที่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีขึ้นและประสบผลสำเร็จมากขึ้น ชีวิตแต่งงานมีความสุขมากขึ้นและหวานชื่นมากขึ้น มีบ้านเหมือนสวรรค์มากขึ้น เรามีอำนาจฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นพรแก่ครอบครัวเรา ชีวิตเรา และชีวิตผู้อื่น ใช่ เราต้องนำสิ่งเหล่านั้นที่เราได้รับแล้วมาให้ตัวเรา บ้านของเรา โควรัมของเรา ชั้นเรียนของเรา และงานมอบหมายของเราในศาสนจักรด้วยความกระตือรือร้นมากขึ้น เวลานี้ศาสนจักรขอให้เรา ‘มอบเช่นที่เรามี’ ให้เพื่อนบ้านและมิตรสหายของเราที่ไม่เป็นสมาชิกเช่นกัน พระเจ้าทรงบัญชาให้เราทำเช่นนั้น เราต้องก้าวให้ยาวขึ้นและเราต้องทำเดี๋ยวนี้” (“Always a Convert Church: Some Lessons to Learn and Apply This Year,” Ensign, Sept. 1975, 3)

โควรัมสาวกเจ็ดสิบ

การขยายโควรัมสาวกเจ็ดสิบเป็นหลักฐานยืนยันว่าพระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์

คริสต์ศักราช 1976 ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์จัดตั้งโควรัมที่หนึ่งของสาวกเจ็ดสิบและเพิ่มโควรัมของสาวกเจ็ดสิบเมื่อศาสนจักรโตขึ้น จำนวนโควรัมขยายต่อได้ตามความจำเป็น

“[จนถึง ค.ศ. 2014] มีสาวกเจ็ดสิบ … แปดโควรัม แต่ละโควรัมมีสมาชิกได้ถึง 70 คน สมาชิกโควรัมสาวกเจ็ดสิบมักเรียกกันเพียงว่า ‘สาวกเจ็ดสิบ’ สาวกเจ็ดสิบได้รับเรียกให้ประกาศพระกิตติคุณและเสริมสร้างศาสนจักร พวกท่านทำงานภายใต้การกำกับดูแลของโควรัมอัครสาวกสิบสอง และฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบ …

“… สมาชิกของโควรัมที่หนึ่งและที่สองของสาวกเจ็ดสิบถือเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ หมายความว่าพวกท่านมีสิทธิอำนาจรับใช้ได้ทุกแห่งในโลก สมาชิกของโควรัมที่เหลือเรียกว่าสาวกเจ็ดสิบภาค และสิทธิอำนาจของพวกท่านจำกัดเฉพาะเขตที่พวกท่านรับใช้” (“Quorums of the Seventy,” LDS.org)