เซมินารี
บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน: หลักคำสอนและพันธสัญญา 133–135 (หน่วย 29)


บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 133–135 (หน่วย 29)

เนื้อหาเตรียมสอนสำหรับครูภาคการศึกษาที่บ้าน

บทสรุปของบทเรียนภาคการศึกษาที่บ้านประจำวัน

ต่อไปนี้เป็นบทสรุปหลักคำสอน และหลักธรรมที่นักเรียนเรียนรู้เมื่อพวกเขาศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 133–135 (หน่วย 29) บทสรุปนี้ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้สอนในบทเรียนของท่าน บทเรียนที่ท่านสอนสำหรับหน่วย 29 เน้นเฉพาะหลักคำสอนและหลักธรรมเหล่านี้เพียงไม่กี่ข้อ จงทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขณะพิจารณาความต้องการของนักเรียน

วันที่ 1 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 133:1–35)

เมื่อนักเรียนศึกษาคำสอนของพระเจ้าเกี่ยวกับการเสด็จมาครั้งที่สอง พวกเขาเรียนรู้ว่า ณ การเสด็จมาครั้งที่สอง พระองค์จะเสด็จมาพิพากษาคนอาธรรม์ นักเรียนระบุด้านต่างๆ ที่เราจะเตรียมตัวเราและคนอื่นๆ ให้พร้อมรับการเสด็จมาครั้งที่สองด้วย การเตรียมนี้รวมถึงการกลับใจและไม่กลับไปทำบาปเดิมอีก

วันที่ 2 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 133:35–74)

ในบทนี้นักเรียนยังคงศึกษาคำสอนของพระเจ้าเกี่ยวกับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ พวกเขาเรียนรู้ว่าในฐานะผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาสามารถช่วยคนอื่นๆ เตรียมรับการเสด็จมาครั้งที่สองได้โดยแบ่งปันพระกิตติคุณกับคนเหล่านั้น นักเรียนค้นพบเช่นกันว่าพระเจ้าทรงเตรียมพรมากมายไว้ให้คนที่รอคอยพระองค์และคนที่กลับใจและชำระตนเองให้บริสุทธิ์จะได้รับชีวิตนิรันดร์

วันที่ 3 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 134)

เมื่อนักเรียนศึกษาข้อประกาศนี้เกี่ยวกับความเชื่อของศาสนจักรเรื่องการปกครองและกฎหมาย พวกเขาระบุความจริงต่อไปนี้: การปกครองได้รับการจัดตั้งโดยพระผู้เป็นเจ้าเพื่อประโยชน์ของมนุษย์ และฝ่ายปกครองมีภาระรับผิดชอบต่อพระผู้เป็นเจ้าในการคุ้มครองสิทธิ์ของแต่ละบุคคลรวมทั้งเสรีภาพทางศาสนา พวกเขาเรียนรู้เช่นกันว่าเราจำเป็นต้องสนับสนุนรัฐบาลที่เราอยู่และพระผู้เป็นเจ้าทรงถือว่าเราต้องรับผิดชอบการฝ่าฝืนกฎของพระองค์และกฎของมนุษย์

วันที่ 4 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 135)

ส่วนหนึ่งของบทเรียนนี้นักเรียนเรียนรู้เหตุการณ์เกี่ยวกับมรณสักขีของโจเซฟกับไฮรัม สมิธและศึกษาคำประกาศที่เขียนเกี่ยวกับมรณกรรมของพวกท่าน ในการศึกษาดังกล่าว นักเรียนค้นพบว่าโจเซฟกับไฮรัม สมิธผนึกพยานของพวกท่านถึงความจริงของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูด้วยชีวิตของพวกท่าน

คำนำ

บทนี้จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจงานบางอย่างที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธทำเพื่อความรอดของมนุษยชาติ นักเรียนจะมีโอกาสแบ่งปันประจักษ์พยานของพวกเขาเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและการฟื้นฟูพระกิตติคุณเช่นกัน

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 135:1–7

ประกาศมรณสักขีของโจเซฟกับไฮรัม สมิธ

ก่อนชั้นเรียนให้ติดรูป โจเซฟ สมิธ (ดู หนังสือภาพพระกิตติคุณ [2009], ภาพที่ 87; ดู LDS.orgด้วย) ท่านอาจจะให้ชั้นเรียนร้องเพลง “สรรเสริญบุรุษ” (เพลงสวด, บทเพลงที่ 14) เป็นเพลงสวดให้ข้อคิดทางวิญญาณ ก่อนการให้ข้อคิดทางวิญญาณ ให้อธิบายว่า ดับเบิลยู. ดับเบิลยู. เฟล์พส์เขียนเนื้อร้องของเพลงสวดเพลงนี้เพื่อรำลึกถึงโจเซฟ สมิธหลังจากมรณสักขีของท่านศาสดาพยากรณ์ไม่นาน

ภาพ
โจเซฟ สมิธ

เริ่มบทเรียนโดยถามคำถามต่อไปนี้

  • ท่านเคยพูดคุยกับคนที่ไม่เป็นสมาชิกของศาสนจักรเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธหรือไม่ หากเคย ท่านพูดคุยเกี่ยวกับอะไร (หากไม่มีใครเคยมีประสบการณ์นี้ ถามนักเรียนว่าพวกเขาอยากบอกอะไรผู้อื่นเกี่ยวกับโจเซฟ สมิธ)

เตือนนักเรียนว่า หลักคำสอนและพันธสัญญา 135 มีคำประกาศเรื่องมรณสักขีของโจเซฟกับไฮรัม สมิธ ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงประโยคแรกของ หลักคำสอนและพันธสัญญา 135:3 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม

  • ข่าวสารของข้อนี้คืออะไร (นักเรียนควรกล่าวว่า โจเซฟ สมิธทำเพื่อความรอดของมนุษย์ในโลกนี้ ยิ่งกว่าคนอื่นใดที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลก ยกเว้นพระเยซูเท่านั้น)

  • ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธทำอะไรเพื่อความรอดและความสูงส่งของเรา (เขียนคำตอบของนักเรียนไว้บนกระดาน)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 135:3 ที่เหลือ ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาวลีบอกสิ่งที่โจเซฟ สมิธทำเพื่อความรอดของเรา ขอให้นักเรียนมองหาสิ่งที่จะเพิ่มเข้าไปในรายการบนกระดาน

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ ขอให้ชั้นเรียนมองหาว่าใครได้รับอิทธิพลจากงานของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

ภาพ
ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ

“งานซึ่งโจเซฟ สมิธมีส่วนไม่จำกัดเฉพาะชีวิตนี้เท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับชีวิตที่จะมาถึงและชีวิตที่เป็นมาแล้วด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ งานของท่านเกี่ยวโยงกับคนที่เคยมีชีวิตบนแผ่นดินโลก คนที่มีชีวิตอยู่และคนที่จะมาหลังจากเรา ไม่ใช่บางสิ่งซึ่งเกี่ยวโยงกับมนุษย์ขณะเขาอยู่ในเนื้อหนังเท่านั้น แต่กับครอบครัวมนุษย์ทั้งหมดตั้งแต่นิรันดรถึงนิรันดรด้วย” (Gospel Doctrine, 5th ed. [1939], 481)

ให้ดูคำอธิบายของโจเซฟ สมิธเรื่องการนำพระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาออกมาใน ข้อ 3 เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความสำคัญของงานนี้เพิ่มเติม ให้เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 135:6 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาเหตุผลที่นำพระคัมภีร์มอรมอนกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาออกมา

  • ตามที่กล่าวไว้ในข้อ ข้อ 6เหตุใดจึงนำพระคัมภีร์มอรมอนกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาออกมา (นักเรียนอาจใช้คำพูดอื่น แต่พวกเขาควรระบุความจริงต่อไปนี้: นำพระคัมภีร์มอรมอนกับหลักคำสอนและพันธสัญญาออกมาเพื่อความรอดของโลก)

  • พระคัมภีร์สองเล่มนี้เอื้อประโยชน์ต่อความรอดของโลกในด้านใด

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 6อะไรทำให้พระคัมภีร์มอรมอนกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาอยู่ในหมู่หนังสือล้ำค่าที่สุดที่ท่านจะเป็นเจ้าของ

ขอให้นักเรียนไตร่ตรองสิ่งที่พวกเขาทำกับพระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาในชีวิตพวกเขา

  • เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อแสดงความสำนึกคุณต่อการเสียสละที่โจเซฟกับไฮรัม สมิธทำเพื่อนำพระคัมภีร์สองเล่มนี้ออกมา

เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนวิธีเฉพาะเจาะจงลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ที่พวกเขาจะสามารถแสดงความสำนึกคุณต่อการเสียสละเพื่อนำพระคัมภีร์สองเล่มนี้ออกมา

ให้ดูรายการที่เขียนไว้บนกระดานก่อนหน้านี้ในบทเรียน เป็นพยานว่าโจเซฟ สมิธช่วยให้บุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าได้รับพรของการชดใช้อย่างครบถ้วนโดยฟื้นฟูพระคัมภีร์ หลักคำสอนที่แท้จริง สิทธิอำนาจและกุญแจฐานะปุโรหิต ศาสนพิธี และการจัดตั้งศาสนจักรของพระเยซูคริสต์

อธิบายว่าบางคนอาจเข้าใจผิดเรื่องความรู้สึกหรือความเชื่อของวิสุทธิชนยุคสุดท้ายต่อศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ ขอให้ชั้นเรียนฟังว่าสมาชิกศาสนจักรมองโจเซฟ สมิธอย่างไรเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ท่านอาจต้องการจัดเตรียม สำเนาคำกล่าวให้นักเรียนแต่ละคน

ภาพ
ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

“เราไม่นมัสการท่านศาสดาพยากรณ์ เรานมัสการพระผู้เป็นเจ้าพระบิดานิรันดร์ของเราและพระเจ้าพระเยซูคริสต์ผู้ฟื้นคืนพระชนม์ แต่เรายอมรับท่านศาสดาพยากรณ์ เราประกาศเกียรติคุณท่าน เราเคารพท่าน เรานับถือท่านเสมือนหนึ่งเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ในการนำความจริงที่มีอยู่เดิมของพระกิตติคุณอันล้ำเลิศกลับมาบนแผ่นดินโลก พร้อมฐานะปุโรหิตซึ่งเป็นสิทธิอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าที่ใช้ดำเนินงานศาสนจักรของพระองค์และเป็นพรแก่ผู้คนของพระองค์” (“โจเซฟ สมิธ จูเนียร—ศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ผู้รับใช้ที่เกรียงไกร,” เลียโฮนา, ธ.ค. 2005, 4)

  • ท่านจะอธิบายความรู้สึกของสมาชิกศาสนจักรเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธด้วยคำพูดของท่านเองว่าอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงผล การปฏิบัติศาสนกิจของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ ต่อชีวิตพวกเขาและต่อชีวิตคนหลายล้านคนทั่วโลก เขียน คำถามต่อไปนี้ ไว้บนกระดาน และขอให้นักเรียนตอบคำถามเหล่านี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขา

ชีวิตท่านอาจจะต่างจากนี้ในด้านใดหากไม่มีการปฏิบัติศาสนกิจของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธมีอิทธิพลอย่างไรต่อความรู้ของท่านเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์และความสัมพันธ์ของท่านกับพระองค์

เชื้อเชิญให้นักเรียนใช้เวลาที่เหลือของชั้นเรียนแบ่งปันความรู้สึกและประจักษ์พยานของพวกเขาเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและการฟื้นฟูพระกิตติคุณ เชื้อเชิญให้พวกเขาใช้คำตอบจากกิจกรรมการเขียนก่อนหน้านี้แสดงความรู้สึกและประจักษ์พยานของตน

สรุปโดยแสดงประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและการฟื้นฟู เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาโอกาสในสองสามวันถัดไปแบ่งปันประจักษ์พยานกับผู้อื่นเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและบทบาทของท่านในการฟื้นฟูพระกิตติคุณ ท่านอาจจะกระตุ้นให้พวกเขาบันทึกประจักษ์พยานถึงศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและการฟื้นฟูพระกิตติคุณลงในบันทึกส่วนตัวของพวกเขา

หมายเหตุ: การให้เวลานักเรียนแบ่งปันประจักษ์พยานท้ายบทเรียนมากพอสำคัญกว่าการทำกิจกรรมต่อไปนี้ให้แล้วเสร็จ หากประจักษ์พยานของนักเรียนใช้เวลาที่เหลือจนหมด ท่านอาจต้องการใช้กิจกรรมนี้ในวันอื่นเมื่อท่านมีเวลามากขึ้น

แจกรายการพระคัมภีร์อ้างอิงผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ 25 ข้อสำหรับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาและประวัติศาสนจักร เชื้อเชิญให้พวกเขาพิจารณาว่าพวกเขาจะใช้ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ข้อใดสอนบางคนเกี่ยวกับการฟื้นฟูพระกิตติคุณผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ ขอให้นักเรียนเขียนบทเรียนหรือคำพูดสั้นๆ โดยใช้ข้อผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ที่พวกเขาระบุ พวกเขาอาจจะเขียนบทเรียนหรือคำพูดในแผ่นกระดาษหรือในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขา ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้นักเรียนสองสามคนสอนบทเรียนหรืออ่านคำพูดของพวกเขาให้ชั้นเรียนฟังเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการให้ข้อคิดทางวิญญาณในชั้นเรียนครั้งต่อๆ ไป

หน่วยถัดไป (การเดินทางอย่างยากลำบากไปตะวันตก)

ขอให้นักเรียนสมมติว่าศาสดาพยากรณ์ขอให้พวกเขาเก็บข้าวของเพียงไม่กี่อย่างและเดินทางหลายพันไมล์ด้วยเกวียนหรือรถลากไปดินแดนที่ไม่มีคนอยู่อาศัย อธิบายว่าในหน่วยถัดไป พวกเขาจะเรียนเรื่องการเดินทางอย่างยากลำบากของวิสุทธิชนไปตะวันตก พวกเขาจะเรียนรู้เช่นกันว่าพระเจ้าทรงกำกับดูแลศาสนจักรต่อไป อีกทั้งตั้งผู้นำคนใหม่หลังจากมรณกรรมของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธอย่างไร