เซมินารี
บทที่ 153: ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 และพัฒนาการต่อเนื่องของงานพระวิหาร


บทที่ 153

ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 และพัฒนาการต่อเนื่องของงานพระวิหาร

คำนำ

หลังจากศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธได้รับการเปิดเผยที่บัญชาให้ท่านสอนหลักธรรมเรื่องการแต่งภรรยาหลายคน สมาชิกศาสนจักรบางคนเริ่มปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนภายใต้การนำของท่านเมื่อต้นทศวรรษ 1840 หลายสิบปีต่อมา ศาสนจักรประสบการต่อต้านจากสาธารณชนเพราะการปฏิบัติดังกล่าว “หลังจากได้รับการเปิดเผย ประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์ออก … คำแถลงนโยบาย [ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1] ซึ่งศาสนจักรยอมรับเป็นข้อกำหนดผูกมัดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1890 นโยบายนี้ส่งผลให้ยุติการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนในศาสนจักร” (ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1, คำนำ) แม้ขณะที่วิสุทธิชนประสบการต่อต้าน พวกเขายังคงทำงานสร้างพระวิหารอย่างขยันหมั่นเพียรเพื่อพวกเขาจะได้รับศาสนพิธีแห่งความรอดเพื่อตนเองและผู้วายชนม์ พวกเขาสร้างและอุทิศพระวิหารห้าแห่งระหว่างปี 1846 ถึง 1893

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

พระเจ้าทรงเปิดเผยว่าวิสุทธิชนยุคสุดท้ายควรเลิกปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน

ขอให้นักเรียนบอกชื่อคนชอบธรรมในพระคัมภีร์ผู้ถูกจับกุมหรือถูกคุมขังเพราะทำสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้พวกเขาทำ (คำตอบอาจได้แก่ดาเนียล อบินาได เปโตร โจเซฟ สมิธ และพระผู้ช่วยให้รอด)

อธิบายว่าชายวิสุทธิชนยุคสุดท้ายถูกจับกุมและถูกคุมขังเพราะพวกเขายังคงเชื่อฟังพระบัญชาให้ปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนหลังจากรัฐบาลสหรัฐอนุมัติกฎหมายซึ่งทำให้การปฏิบัติดังกล่าวผิดกฎหมาย สตรีบางคนถูกจับเช่นกัน เพราะพวกเธอไม่ยอมเปิดเผยที่อยู่ของสามีผู้ไปหลบซ่อนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม

ขอให้นักเรียนสรุปว่าการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนเริ่มในหมู่สมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายอย่างไร (ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธได้รับการเปิดเผยเกี่ยวกับหลักธรรมเรื่องการแต่งภรรยาหลายคน และการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนกำหนดขึ้นในหมู่สมาชิกศาสนจักรตอนต้นทศวรรษ 1840 เพื่อตอบรับพระบัญชาของพระเจ้า [ดู คพ. 132])

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงย่อหน้าต่อไปนี้ ขอให้ชั้นเรียนฟังความยากลำบากบางอย่างที่สมาชิกศาสนจักรประสบขณะพวกเขาเชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าให้ปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1852 อันเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมใหญ่ในซอลท์เลคซิตี้ เอ็ลเดอร์ออร์สัน แพรทท์ประกาศต่อสาธารณชนว่าในการเชื่อฟังพระบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้า สมาชิกบางคนของศาสนจักรกำลังปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน เอ็ลเดอร์แพรทท์ประกาศเรื่องนี้ภายใต้การกำกับดูแลของประธานบริคัม ยังก์ ผู้นำศาสนาและผู้นำการเมืองหลายคนในสหรัฐต่อต้านระบบการแต่งภรรยาหลายคน ซึ่งพวกเขาถือว่าผิดศีลธรรมและไร้อารยธรรม วิสุทธิชนยุคสุดท้ายถูกเย้ยหยันในสุนทรพจน์ต่อสาธารณชน หนังสือ นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ สภาคองเกรสสหรัฐอนุมัติกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพของสมาชิกศาสนจักรและทำให้ศาสนจักรเสียหายทางเศรษฐกิจโดยจำกัดจำนวนทรัพย์สินที่ศาสนจักรถือครองได้ ในที่สุดกฎหมายเหล่านี้นำไปสู่การจับกุมคุมขังชายที่มีภรรยามากกว่าหนึ่งคน ชายเหล่านี้ไม่มี “สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ไม่มีสิทธิส่วนบุคคลในบ้านของพวกเขา และไม่ได้รับอิสรภาพด้านอื่นในฐานะพลเรือน” (ดู มรดกของเรา: ประวัติย่อของศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย [1996], 112) ราว ค.ศ. 1890 วิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่ซื่อสัตย์หลายร้อยคนถูกคุมขังในเรือนจำ หลายคนไปซ่อนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมคุมขัง ในสภาพเหล่านี้ หลายครอบครัวทนทุกข์จากความเครียด ความเศร้าโศก ความยากไร้ และความหิว

หลังจากคำประกาศปี 1852 การแต่งภรรยาหลายคนกลับแพร่หลายยิ่งกว่าเดิม และชายหญิงหลายพันคนได้รับการผนึกในการแต่งงานภรรยาหลายคนภายใต้การกำกับดูแลของผู้นำฐานะปุโรหิต ถึงแม้ชาวโลกจะเย้ยหยันพวกเขาเพราะปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน แต่วิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่ซื่อสัตย์จำนวนมากปกป้องการปฏิบัตินี้และเป็นพยานว่าพวกเขารู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยการปฏิบัติดังกล่าวผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

  • ท่านจะ สรุปความยากลำบาก ที่วิสุทธิชนยุคสุดท้ายยุคแรกประสบเพราะพวกเขาเชื่อฟังพระบัญชาจากพระเจ้าให้ปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนอย่างไร

ภาพ
ประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์

อธิบายว่าสภาวการณ์ยุ่งยากเหล่านี้ชักนำให้ประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์แสวงหาการนำทางจากพระเจ้าร่วมกับการสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนของวิสุทธิชน ปี 1889 ประธานวูดรัฟฟ์บอกผู้นำศาสนจักรให้เลิกสอนหลักธรรมเรื่องการแต่งภรรยาหลายคน ประมาณปี 1890 มีผู้ปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนน้อยมาก และการทำเช่นนี้ถือว่าขัดต่อคำแนะนำของประธานวูดรัฟฟ์ อย่างไรก็ตาม บางคนลงข่าวรายงานว่าศาสนจักรยังคงส่งเสริมให้ปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน รายงานเหล่านี้ส่งผลให้เกิดการต่อต้านศาสนจักรมากยิ่งขึ้น ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1890 ประธานวูดรัฟฟ์ออกคำแถลงนโยบายซึ่งเวลานี้รู้กันในชื่อว่า ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 ในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา

สรุปสามย่อหน้าแรกของ ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 โดยอธิบายว่าประธานวูดรัฟฟ์ประกาศว่ามีรายงานไม่ถูกต้องกล่าวหาว่าศาสนจักรยังคงส่งเสริมการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน จากนั้นให้เชิญนักเรียนสามคนผลัดกันอ่านออกเสียงย่อหน้าที่สี่และห้าของ ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 (เริ่มที่ “ตราบเท่าที่”) และข้อความต่อจากนั้นของประธานลอเรนโซว์ สโนว์ผู้เป็นประธานโควรัมอัครสาวกสิบสอง ขอให้ชั้นเรียนดูตามและมองหาสิ่งที่ประธานวูดรัฟฟ์แนะนำให้วิสุทธิชนทำ

  • วิสุทธิชนได้รับคำแนะนำให้ทำอะไร (ละเว้นจากการจัดงานหรือเข้าพิธีแต่งภรรยาหลายคน)

  • ตามที่ประธานลอเรนโซว์ สโนว์กล่าว เหตุใดคำแนะนำให้ละเว้นจากการเข้าพิธีแต่งภรรยาหลายคนที่มาจากประธานศาสนจักรจึงสำคัญ (เพราะท่านเป็นคนเดียวบนแผ่นดินโลกผู้ถือกุญแจทั้งหลายของอำนาจการผนึก ท่านอาจต้องการเตือนความจำนักเรียนว่าการแต่งภรรยาหลายคนจะอนุญาตให้ทำผ่านกุญแจฐานะปุโรหิตที่มอบให้ประธานศาสนจักรเท่านั้น [ดู คพ. 132:7, 48])

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงย่อหน้าแรกของ “ข้อความที่คัดลอกมาจากสุนทรพจน์สามเรื่องโดยประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์เกี่ยวข้องกับคำแถลงนโยบาย” ซึ่งอยู่ต่อจากเนื้อความของคำแถลงนโยบาย ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาหลักธรรมที่ประธานวูดรัฟฟ์สอนวิสุทธิชน

  • ประธานวูดรัฟฟ์สอนอะไรวิสุทธิชน (ขณะที่นักเรียนตอบ ให้เขียนหลักคำสอนต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: พระเจ้าจะไม่ทรงอนุญาตให้ประธานศาสนจักรนำศาสนจักรออกนอกลู่นอกทาง ท่านอาจต้องการเชื้อเชิญให้นักเรียนทำเครื่องหมายคำหรือวลีในพระคัมภีร์ของพวกเขาที่สอนคำสอนนี้)

  • หลักธรรมนี้จะช่วยเราในทุกวันนี้ได้อย่างไร

อธิบายว่าสมาชิกศาสนจักรบางคนสงสัยว่าเหตุใดจึงแนะนำให้พวกเขาดำเนินชีวิตตามหลักธรรมของการแต่งภรรยาหลายคนแต่จากนั้นก็แนะนำให้ยุติ พระเจ้าทรงบัญชาประธานวูดรัฟฟ์ให้ถามวิสุทธิชนหนึ่งข้อ เชิญนักเรียนสามคนผลัดกันอ่านออกเสียงย่อหน้าที่สาม สี่ และห้าของ “ข้อความที่คัดลอกมาจากสุนทรพจน์สามเรื่องของประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์” (เริ่มที่ “ข้าพเจ้าได้รับการเปิดเผยบางเรื่อง”) ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาคำถามที่ประธานวูดรัฟฟ์ถามวิสุทธิชน

  • ท่านจะสรุปคำถามที่ประธานวูดรัฟฟ์ได้รับการดลใจให้ถามวิสุทธิชนว่าอย่างไร

อธิบายว่าวิสุทธิชนอยู่ในอันตรายของการสูญเสียพระวิหารเซนต์จอร์จ ยูทาห์ พระวิหารโลแกน ยูทาห์ พระวิหารแมนไท ยูทาห์ และพระวิหารซอลท์เลคที่สร้างเกือบเสร็จ (หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ท่านอาจต้องการให้ดูภาพพระวิหารเหล่านี้)

  • งานสำคัญอะไรจะยุติหากพระวิหารถูกยึด

ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงย่อหน้าที่เจ็ดของ “ข้อความที่คัดลอกมาจากสุนทรพจน์สามเรื่องโดยประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์” (เริ่มที่ “ข้าพเจ้ามองเห็นชัดเจน”) เชื้อเชิญให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาสิ่งที่ประธานวูดรัฟฟ์จะทำหากพระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงบัญชาให้ท่านบอกผู้นำศาสนจักรให้ยกเลิกการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน

  • ประธานวูดรัฟฟ์จะทำอะไร

  • เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากคำกล่าวของประธานวูดรัฟฟ์ที่ว่า “ข้าพเจ้าเขียนสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงบอกให้ข้าพเจ้าเขียน” (หลังจากนักเรียนตอบแล้ว ท่านอาจต้องการเขียนหลักคำสอนต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: พระเจ้าทรงกำกับดูแลศาสนจักรผ่านการเปิดเผยต่อประธานศาสนจักร)

  • หลักคำสอนนี้มีผลต่อท่านอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันประจักษ์พยานเกี่ยวกับความจริงที่ท่านเขียนไว้บนกระดาน ท่านอาจต้องการแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านเช่นกัน

ภาพ
ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ

อธิบายว่าวิสุทธิชนยุคสุดท้ายกลุ่มเล็กๆ ยังคงเข้าสู่การแต่งภรรยาหลายคนหลังจากออกคำแถลงนโยบาย ในปี 1904 ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธประกาศว่า “ห้ามการแต่งภรรยาหลายคนทั้งหมด และหากเจ้าหน้าที่หรือสมาชิกคนใดของศาสนจักรจะทำพิธีหรือเข้าสู่การแต่งงานเช่นนั้นเขาจะถูก … ปัพพาชนียกรรม” (ใน Conference Report, Apr. 1904, 75) นโยบายดังกล่าวยังคงใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้

  • จากสิ่งที่ท่านเรียนรู้ ท่านจะตอบอย่างไรถ้ามีคนถามท่านว่าวิสุทธิชนยุคสุดท้ายปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนหรือไม่ (ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าสมาชิกศาสนจักรเคยปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนเพราะเชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้า แต่การปฏิบัติดังกล่าวสิ้นสุดนานมาแล้ว ตามพระบัญชาของพระเจ้าเช่นกัน การแต่งงานระหว่างชายหนึ่งคนกับหญิงหนึ่งคนเป็นมาตรฐานของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการแต่งงานเว้นแต่พระองค์ทรงประกาศเป็นอื่น [ดู เจคอบ 2:27, 30])

พระเจ้าทรงเปิดเผยว่าวิสุทธิชนยุคสุดท้ายควรได้รับการผนึกกับสมาชิกครอบครัวของพวกเขา

อธิบายว่าหลังจากออกคำแถลงนโยบาย รัฐบาลกลางจึงเลิกขู่ว่าจะยึดพระวิหารและทรัพย์สินของศาสนจักร หากไม่มีเรื่องนี้เข้ามาขัดจังหวะวิสุทธิชนคงสามารถจดจ่อกับงานพระวิหารได้มากขึ้น วันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1893 สี่สิบปีหลังจากวางศิลามุมเอกของพระวิหารซอลท์เลค ประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์อุทิศพระวิหารดังกล่าว ส่งผลให้มีพระวิหารเปิดดำเนินการรวมทั้งหมดสี่แห่ง

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1894 หนึ่งปีหลังจากอุทิศพระวิหารซอลท์เลค ประธานวูดรัฟฟ์ประกาศว่าท่านได้รับการเปิดเผย ก่อนการเปิดเผยนี้ สมาชิกศาสนจักรทำตามความรู้ที่พวกเขามีอยู่คือมักจะให้ตนเองผนึกหรือ “เป็นบุตรบุญธรรม” ของผู้นำศาสนจักรเช่นโจเซฟ สมิธหรือบริคัม ยังก์แทนที่จะผนึกกับบิดามารดาของตน แต่ประธานวูดรัฟฟ์เรียนรู้โดยการเปิดเผยว่าท่านควรแนะนำให้วิสุทธิชน “สืบลำดับเชื้อสายให้ไกลเท่าที่พวกเขาจะทำได้ และผนึกกับบิดามารดาของพวกเขา ให้ลูกๆ ผนึกกับบิดามารดา และต่อสายโซ่เส้นนี้ให้ยาวที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้ … นี่คือพระประสงค์ของพระเจ้าต่อผู้คนของพระองค์” (ใน James R. Clark, comp., Messages of the First Presidency of The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints, 6 vols. [1965–75], 3:256–257; ดู คำสอนของประธานศาสนาจักร: วิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์ [2004], xxxiii–xxxv)

  • เราสามารถผนึกกับใครได้บ้างผ่านศาสนพิธีผนึก (หลังจากนักเรียนตอบแล้ว ให้เขียนความจริงต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: เราสามารถผนึกกับสมาชิกครอบครัวของเราได้ รวมทั้งคนที่มาก่อนเราและคนที่มาหลังเรา ผ่านอำนาจการผนึก)

  • ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่าท่านสามารถผนึกกับสมาชิกครอบครัวของท่านได้

สรุปโดยเป็นพยานถึงอำนาจการผนึกและความสำคัญของการเชื่อมโยงตัวเรากับครอบครัวเราหลายรุ่นผ่านศาสนพิธีของพระวิหาร

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 ภูมิหลังอยู่ในพระคัมภีร์ฉบับปี 2013 ด้วย

ข้อความต่อไปนี้ซึ่งเป็น คำนำของข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 ในพระคัมภีร์ฉบับปี 2013 จะช่วยนักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนของวิสุทธิชนยุคสุดท้ายในทศวรรษ 1800 ท่านอาจต้องการพิมพ์ สำเนาข้อความนี้ และแจกให้นักเรียนที่ไม่มีพระคัมภีร์ฉบับปี 2013

“พระคัมภีร์ไบเบิลและพระคัมภีร์มอรมอนสอนว่าการมีคู่ครองคนเดียวเป็นมาตรฐานของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการแต่งงานเว้นแต่พระองค์ทรงประกาศเป็นอื่น (ดู 2 ซามูเอล 12:7–8 และ เจคอบ 2:27, 30) ตามการเปิดเผยต่อโจเซฟ สมิธกำหนดให้ปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนในหมู่สมาชิกศาสนจักรตอนต้นทศวรรษ 1840 (ดู ภาค 132) ตั้งแต่ทศวรรษ 1860 ถึงทศวรรษ 1880 รัฐบาลสหรัฐอนุมัติกฎหมายที่ทำให้การปฏิบัติทางศาสนาดังกล่าวผิดกฎหมาย ในที่สุดศาลสูงสุดของสหรัฐสนับสนุนกฎหมายเหล่านี้ หลังจากได้รับการเปิดเผย ประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์ออกคำแถลงนโยบายต่อไปนี้ซึ่งศาสนจักรยอมรับเป็นข้อกำหนดที่เชื่อถือได้เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1890 เรื่องนี้ส่งผลให้ยุติการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนในศาสนจักร

ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 การปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนยุติทันทีหลังออกคำแถลงนโยบายหรือไม่

สมาชิกศาสนจักรบางคนยังคงเข้าสู่การแต่งภรรยาหลายคนหลังจากออกคำแถลงนโยบายในปี 1890 เอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่า

ภาพ
เอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์

“การมีคู่ครองหลายคนไม่ยุติทันทีพร้อมคำแถลงนโยบายปี 1890 ความสัมพันธ์ฉันคู่ครองหลายคนที่ได้รับการผนึกก่อนประกาศการเปิดเผยนั้นดำเนินต่อไปอีกรุ่นหนึ่ง การปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนดำเนินต่อเนื่องอยู่ชั่วระยะหนึ่งนอกสหรัฐที่ซึ่งการใช้คำแถลงนโยบายยังคลุมเครืออยู่ระยะหนึ่ง ดูเหมือนว่าการแต่งภรรยาหลายคนดำเนินต่อเนื่องราวสิบปีในบางพื้นที่ในหมู่ผู้นำและสมาชิกที่เห็นควรทำเรื่องนี้เพราะความคลุมเครือและแรงกดดันอันเกิดจากความขัดแย้งระดับสูงนี้ระหว่างกฎหมายที่พวกเขาไม่พอใจกับหลักคำสอนที่พวกเขาไม่ชอบ …

“ใจข้าพเจ้าชอกช้ำเมื่อข้าพเจ้าได้อ่านเกี่ยวกับสภาวการณ์ซึ่งภรรยากับลูกๆ ต้องทำการเลือกที่น่ากลัวระหว่างการโกหกเรื่องที่อยู่หรือการมีชีวิตอยู่ของสามีหรือบิดากับการบอกความจริงและเห็นเขาเข้าไปอยู่ในคุก … เมื่อบิดาอยู่ในคุก อาหารบนโต๊ะและเชื้อเพลิงในเตาผิงจึงลดน้อยลง การเลือกยากๆ เหล่านั้นเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอารมณ์และความต้องการขั้นพื้นฐานอันเป็นคำมั่นสัญญาต่อความจริงกับการต้องมีคู่ชีวิตที่ตนรักรวมถึงการบรรเทาความหนาวและความหิว

“ข้าพเจ้าเห็นใจผู้นำศาสนจักรเช่นกันผู้ถูกบีบให้เลือกระหว่างภักดีต่อความจริงกับภักดีต่อภรรยา ลูกๆ และต่อกัน การบอกความจริงอาจหมายถึงทรยศต่อความไว้เนื้อเชื่อใจหรือเป็นเหตุหรือส่งพี่น้องคนหนึ่งเข้าเรือนจำ …

“ข้าพเจ้าไม่ทราบจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ข้าพเจ้าดีใจที่ข้าพเจ้าไม่ต้องพบเจอแรงกดดันที่คนดีๆ เหล่านั้นพบเจอ ข้าพเจ้าเข้าใจความกล้าหาญและการเสียสละของพวกเขา ซึ่งข้าพเจ้าเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง ข้าพเจ้าจะไม่ตัดสินคนเหล่านั้น การตัดสินดังกล่าวเป็นของพระเจ้าผู้ทรงทราบสภาวการณ์ทั้งหมดและทรงรู้ใจผู้เกี่ยวข้อง ระดับความเข้าใจและสติปัญญาที่แม้แต่นักประวัติศาสตร์ผู้มีความรู้มากที่สุดก็เข้าไม่ถึง,” Clark Memorandum [Brigham Young University J. Reuben Clark Law School periodical], Spring 1994, 16–17)

ตั้งแต่ปี 1904 ศาสนจักรปัพพาชนียกรรมสมาชิกผู้เข้าสู่หรือประกอบพิธีแต่งภรรยาหลายคน (ดู Conference Report, Apr. 1904, 75) คริสต์ศักราช 1998 ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์กล่าวถึงจุดยืนของศาสนจักรเรื่องการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคนดังนี้

ภาพ
ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

“ศาสนจักรนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับผู้ปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน … หากพบสมาชิกคนใดของเราปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน พวกเขาจะถูกปัพพาชนียกรรม ซึ่งเป็นบทลงโทษรุนแรงที่สุดที่ศาสนจักรสามารถทำได้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ไม่เพียงฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมืองเท่านั้น แต่พวกเขายังฝ่าฝืนกฎของศาสนจักรนี้ด้วย” (“ผู้คนทั่วไปถามอะไรเกี่ยวกับพวกเราบ้าง” เลียโฮนา, ม.ค. 1999, 83)

สุนทรพจน์โดยประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์ พระเจ้าจะไม่ทรงอนุญาตให้ประธานศาสนจักรนำเราออกนอกลู่นอกทาง

ประธานมาเรียน จี. รอมนีย์แห่งฝ่ายประธานสูงสุดเล่าประสบการณ์ที่ท่านมีกับประธานฮีเบอร์ เจ. แกรนท์ผู้เป็นประธานศาสนจักรเวลานั้น

ภาพ
ประธานมาเรียน จี. รอมนีย์

“ท่านยืนอยู่ข้างข้าพเจ้า วางแขนพาดบ่าข้าพเจ้าและพูดว่า ‘พ่อหนุ่ม ขอให้คุณจับตาดูประธานศาสนจักรตลอดเวลา และหากเขาบอกคุณให้ทำสิ่งใด และสิ่งนั้นผิด และคุณทำ พระเจ้าจะทรงอวยพรที่คุณทำ’ จากนั้นด้วยดวงตาเป็นประกาย ท่านพูดว่า ‘แต่คุณไม่ต้องห่วง พระเจ้าจะไม่มีวันปล่อยให้กระบอกเสียงของพระองค์นำผู้คนออกนอกลู่นอกทาง’” (ใน Conference Report, Oct. 1960, 78)

ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1ได้ที่ Gospel Topics บน LDS.org และค้นหา “plural marriage” หรือ “polygamy